ที่เรียกแบบเป็นทางการว่าน้ำเสียชุมชน หรือน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมก็ใช้หลักการเดียวกันคือ การแยกสิ่งปนเปื้อนออกจากน้ำ การแยกนั้นทำได้หลายวิธีตามธรรมชาติของสิ่งปนเปื้อน ส่วนจะเลือกวิธีใดก็ต้องพิจารณาต้นทุนการบำบัดไม่ให้สูงเกินความจำเป็น
กระบวนการทั่วไปที่ใช้บำบัดน้ำเสียมีดังนี้
1. วิธีการทางกายภาพ เป็นการใช้กระบวนการเชิงกลในการแยกสิ่งปนเปื้อนมีขนาดใหญ่และไม่ละลายน้ำออกจากน้ำ เช่น
การกรอง เป็นวิธีการง่ายๆ ใช้ตะแกรงหรือแผ่นกรอง กรองน้ำเสียเพื่อแยกขยะชิ้นใหญ่ไปกำจัดด้วยวิธีอื่นต่อไป
การตกตะกอน น้ำที่มีสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็กกรองออกยากและหนักกว่าน้ำมาก เช่น กรวด ทราย การออกแบบให้มีแผ่นกั้นหรือทำทางน้ำไหลให้วกวน ดังภาพที่ 4 เพื่อเพิ่มระยะทางการไหลและทำให้น้ำไหลช้าลงก็จะช่วยให้สิ่งเจือปนตกตะกอน แยกออกจากน้ำได้ง่าย
การดูดซับ ด้วยตัวดูดซับที่เหมาะสม เช่น เรซิน ถ่านกัมมันต์ ก็เป็นวิธีการที่นำมาใช้ในกรณีที่สิ่งปนเปื้อนละลายน้ำ ไม่สามารถกรองด้วยตะแกรงได้และทำให้ตกตะกอนยากแต่กฎหมายกำหนดให้บำบัดเพราะเป็นพิษ เช่น สารเคมีที่ละลายอยู่ในน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม
น้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดด้วยวิธีการทางกายภาพหากเหลือความสกปรกน้อยกว่าที่กำหนดในกฎหมายก็ทิ้งลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะได้เลย แต่ถ้ายังสกปรกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดก็ต้องนำไปบำบัดด้วยวิธีอื่นต่อไป
2. วิธีทางเคมี น้ำเสียที่มีสารเคมีละลายอยู่ และไม่สามารถบำบัดด้วยวิธีทางกายภาพก็อาจเติมสารเคมีที่เหมาะสม เพื่อเปลี่ยนรูปเป็นเกลือที่มีความเป็นพิษน้อยลง หรือทำให้ตกตะกอนแยกออกจากน้ำได้ง่ายขึ้น วิธีนี้สิ้นเปลืองเพราะต้องซื้อสารเคมีเพิ่มไปเรื่อยๆ
3. วิธีการทางชีววิทยา เป็นวิธีการที่เลียนแบบกระบวนการทางธรรมชาติที่สิ่งมีชีวิตดูดซับเอาสารอาหารจากธรรมชาติมาใช้ในการดำรงชีวิต โดยปรับสภาวะแวดล้อมให้สิ่งมีชีวิตในน้ำทิ้งเจริญอย่างรวดเร็ว สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นก็จะดูดซับเอาสิ่งปนเปื้อนในน้ำไปใช้เร็วขึ้น ทำให้น้ำสะอาดจนสามารถทิ้งลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติได้โดยไม่ทำให้แหล่งน้ำที่รับน้ำทิ้งเน่าเสีย เนื่องจากสิ่งมีชีวิตในน้ำมีหลายรูปแบบทำให้สามารถเลือกมาใช้ให้เหมาะสมกับน้ำทิ้งแต่ละประเภทที่สกปรกไม่เท่ากัน โดยทั่วไปสิ่งมีชีวิตที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสียมีสองกลุ่มใหญ่ๆ คือ พืช และจุลินทรีย์
การใช้พืชบำบัดน้ำเสีย จัดเป็นรูปแบบหนึ่งของกระบวนการที่เรียกว่า Phytoremediation ซึ่ง Phytoremediation ครอบคลุมไปถึงการใช้พืชดูดซับสารพิษในดิน4 แต่ในกรณีนี้เป็นการทำพื้นที่ชุ่มน้ำ (wetland) โดยปลูกพืชที่ชอบพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น ธูปฤาษี กก พุทธรักษา เป็นต้น แล้วให้น้ำเสียไหลผ่าน พืชจะดูดซับสารปนเปื้อนจากน้ำรวมทั้งกรองตะกอนที่มีในน้ำ ทำให้น้ำสะอาดขึ้น ปัจจุบันมีแปลงสาธิตเพื่อแสดงการใช้พื้นที่ชุ่มน้ำบำบัดน้ำเสียที่โครงการพระราชดำริแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี
การใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย เป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปทั้งในการบำบัดน้ำเสียชุมชนและน้ำเสียอุตสาหกรรม เพราะเป็นวิธีที่บำบัดน้ำให้สะอาดได้เร็ว ควบคุมง่าย ต้นทุนไม่สูงนัก หลักการคือปรับสภาวะในถังบำบัดน้ำเสียให้เหมาะกับการเจริญของจุลินทรีย์ ทำให้จุลินทรีย์แบ่งตัวเพิ่มจำนวนและดูดซับสารเข้าไปในเซลล์ น้ำจึงสะอาดขึ้น หลังจากนั้นแยกจุลินทรีย์ออกจากน้ำเพื่อให้น้ำสะอาด มีลักษณะสมบัติตามกฎหมายกำหนด เนื่องจากจุลินทรีย์มีทั้งแบบที่ใช้ออกซิเจนและแบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนในการหายใจ ระบบบำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์จึงมีทั้งแบบที่ต้องเติมอากาศ และแบบที่ไม่ต้องเติมอากาศ
น้ำเน่าเสีย วิธีการทางกายภาพ เพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่https://www.bciworld.net/