DNK Orchid Online
April 19, 2024, 12:14:19 am
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: DNK Orchid Online

ติดต่อผมทุกกรณี ที่ E-Mail : iamdankydank@gmail.com  

หรือ
   


มือถือ : 0962254496(แด๊ง)

 
Danky Dank

Create Your Badge
 
  Home Forum Help Search Arcade Links Staff List Login Register  
+-+-
+-User
  Show Posts
Pages: [1] 2 3 ... 213
1  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / มือถือ Xiaomi เสียวหมี่ RedmiNote 13 Pro+ 5G (8GB/256GB) on: April 18, 2024, 08:29:37 am
เสียวหมี่ Xiaomi RedmiNote 13 Pro+ 5G (8GB/256GB)
กล้องคมชัดพิเศษ 200MP พร้อมระบบกันสั่น OIS
หน้าจอโค้ง 1.5K 120Hz AMOLED
โปรเซสเซอร์ MediaTek Dimensity 7200-Ultra
120W ไฮเปอร์ชาร์จ พร้อมแบตเตอรี่ 5000mAh (typ)
กันฝุ่นและน้ำระดับ IP68*

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น              เสียวหมี่ Xiaomi RedmiNote 13 Pro+ 5G (8GB/256GB)
   ราคากลาง           15,990 บาท
   จำนวนซิม            2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์           จอสัมผัส
   สี                     White(Moonlight White), Black(Midnight Black), Purple(Aurora Purple)

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM: 850 900 1800 1900MHz)
3G(WCDMA:1/2/4/5/6/8/19)
4G(LTE FDD:1/2/3/4/5/7/8/12/13/17/18/19/20/26/28/32/66 | LTE TDD:38/40/41)
5G(n1/3/5/7/8/20/28/38/40/41/66/77/78)

   ขนาด-น้ำหนัก                    ยาว 161.4 x กว้าง 74.2 x หนา 8.9 มม., น้ำหนัก 204.5 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)    256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด      -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ          ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ            จอสัมผัส (CrystalRes AMOLED)
   ความละเอียด    6.67 นิ้ว, 446 ppi, 1,220 x 2,712 px

   รายละเอียดอื่น
อัตรารีเฟรช: สูงสุด 120Hz
ความสว่าง: ความสว่างสูงสุด 1800 nits
ความลึกของสี: 12 บิต
อัตราคอนทราสต์: 5,000,000:1
ช่วงสี: DCI-P3 100%
กระจก Corning® Gorilla® Victus®
รองรับ Dolby Vision®
รองรับโหมดอ่านหนังสือ
การหรี่ไฟ PWM 1920Hz
การปรับความสว่างถึง 16,000 ระดับ
HDR10+
ได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน)
ได้รับการรับรอง Circadian Friendly จาก TÜV Rheinland
ได้รับการรับรองความไร้ซึ่งแสงกะพริบจาก TÜV Rheinland

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (200 Mpx), กล้องหน้า (16 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                            -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)            MediaTek Dimensity 7200-Ultra
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)    Mali-G610
   หน่วยความจำ (RAM)               8.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก                USB, Bluetooth, NFC, Wi-Fi
   ระบบรับส่งข้อความ                      -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต             3G, WiFi, 4G, 5G

มือถือ Xiaomi เสียวหมี่ RedmiNote 13 Pro+ 5G (8GB/256GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/xiaomi/
ReplyReply Reply with quoteQuote
2  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / แนะนำวิธีเลือกคลินิกจัดฟันให้ได้มาตร on: April 18, 2024, 02:12:56 am
คลินิกทำฟันที่ไหนดี? เป็นหนึ่งในคำถามที่พบบ่อยในผู้ที่อยากจัดฟัน (Orthodontics) เพื่อแก้ไขปัญหาฟันต่าง ๆ เช่น ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ฟันไม่สบกัน ฟันห่าง ฟันซ้อน ฟันเก หรืออยากปรับการเรียงตัวของฟันและขากรรไกรให้พอดีมากขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปจัดฟันที่ไหนดี

จะพาไปทำความรู้จักกับ 5 วิธีเลือกคลินิกจัดฟันให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง และได้รับบริการที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย รับรองว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน หากเลือกคลินิกจัดฟันด้วยวิธีเหล่านี้ก็จะได้รับบริการจากคลินิกทันตกรรมที่ได้มาตรฐานอย่างแน่นอน


วิธีเลือกคลินิกจัดฟันที่ให้บริการตามมาตรฐานและปลอดภัย

ในปัจจุบันมีคลินิกทันตกรรมที่ให้บริการด้านการจัดฟันจำนวนมาก ซึ่งเราไม่สามารถตัดสินได้ว่า คลินิกไหนดี คลินิกไหนไม่ดี จนกว่าจะได้ใช้บริการจริง ๆ อย่างไรก็ตาม 5 วิธีเลือกคลินิกจัดฟันให้ได้มาตรฐานที่เรานำมาแนะนำนี้ จะช่วยคัดกรองคลินิกทันตกรรมที่ไม่ได้มาตรฐานออกไป ทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะได้รับบริการที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย


1. เลือกคลินิกทันตกรรมที่ได้รับรองจากหน่วยงานภาครัฐ

การเลือกคลินิกทันตกรรมที่ได้รับการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เป็นวิธีเลือกคลินิกจัดฟันวิธีแรกที่ไม่ควรมองข้าม และต้องทำทุก ๆ ครั้งก่อนเข้าไปใช้บริการคลินิกทันตกรรม รวมไปถึงสถานพยาบาลอื่น ๆ อย่างคลินิกเสริมความงาม คลินิกรักษาโรคทั่วไป หรือโรงพยาบาล โดยจะต้องมีเลขใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก และยังไม่หมดอายุ ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบสถานพยาบาลเอกชนที่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขได้เลย


2. ให้บริการโดยทันตแพทย์เฉพาะทางด้านการจัดฟัน

นอกจากการขึ้นทะเบียนกับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องตรวจสอบก็คือความชำนาญของทันตแพทย์ที่ให้บริการด้านการจัดฟัน เพราะทันตแพทย์จะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่แตกต่างกันไปเหมือนกับแพทย์ ถ้าหากจัดฟันกับทันตแพทย์ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญ หรือไม่ได้จบเฉพาะทางด้านการจัดฟันก็อาจจะทำให้ส่งผลเสียในระยะยาว เช่น จัดฟันล้มจนต้องจัดฟันใหม่ หรือมีปัญหาด้านขากรรไกรค้าง เป็นต้น

สำหรับวิธีการตรวจสอบทันตแพทย์เฉพาะทางด้านการจัดฟัน สามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์สมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทย โดยการนำชื่อและนามสกุลของทันตแพทย์ไปตรวจสอบที่หน้าค้นหาทันตแพทย์จัดฟันได้เลย

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ต้องการจัดฟันใสอินวิสไลน์ (Invisalign) ซึ่งเป็นการจัดฟันในรูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม จะต้องตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมการจัดฟันใสอินวิสไลน์โดยเฉพาะได้ที่ทางเว็บไซต์ของอินวิสไลน์


3. มีวิธีการรักษาและติดตามผลที่ดี

การจัดฟันเพื่อให้ฟันกลับมาเรียงตัวสวย เป็นกระบวนการรักษาที่ใช้ระยะเวลานาน ประมาณ 1 – 2 ปี และหลังจากที่รักษาเสร็จแล้ว ก็จะต้องเข้ารับการตรวจติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อคงผลการรักษาให้ดีที่สุด จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกจัดฟันกับคลินิกทันตกรรมที่มีใจบริการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นทันตแพทย์ พนักงาน ผู้ช่วย หรือพยาบาลที่ประจำคลินิก สามารถให้คำแนะนำเบื่องต้นได้ดี มีช่องทางในการปรึกษาที่หลากหลายและสะดวก ซึ่งจะช่วยให้การจัดฟันเป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยให้เรารู้สึกสบายใจและมีความสุขที่จะไปเข้าบริการอย่างต่อเนื่องได้จนจบการรักษา


4. ราคาค่าบริการจัดฟันสมเหตุสมผล

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยในวิธีเลือกคลินิกจัดฟันก็คือ การเลือกคลินิกทันตกรรมที่คิดค่ารักษาและค่าบริการจัดฟันอย่างสมเหตุสมผล มีการแจกจ่ายราคาค่ารักษาอย่างชัดเจน พร้อมมีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น จ่ายจำนวนเต็ม หรือแบบแบ่งจ่าย เพื่อเอื้ออำนวยให้คนไข้สามารถจัดการกับค่ารักษาได้
การจัดฟันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น จัดฟันแบบโลหะ จัดฟันแบบดามอน จัดฟันเซรามิก หรือจัดฟันใสอินวิสไลน์ ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง หากเลือกจัดฟันกับคลินิกทันตกรรมที่ให้ราคาไม่สมเหตุสมผล มีการบวกเพิ่มค่ารักษาในภายหลังอยู่เรื่อย ๆ ก็อาจทำให้เราไม่สามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายไว้ และทำให้ไม่สามารถเข้ารักษาได้จนเสร็จนั่นเอง


5. มีรีวิวจากผู้ใช้งานจริง

วิธีเลือกคลินิกจัดฟันวิธีสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำในบทความนี้ก็คือ การเลือกคลินิกทันตกรรมที่มีรีวิวจากผู้ใช้งานจริง สามารถดูได้จากหลายช่องทาง เช่น เพจของคลินิก เว็บไซต์ของคลินิก หรือรีวิวใน Google เพื่อที่จะได้เปรียบเทียบภาพก่อนและหลังการจัดฟันในรูปแบบต่าง ๆ และนำมาเป็นแนวทางในการตัดสินใจ รวมถึงสามารถประเมินเบื้องต้นเกี่ยวกับการให้บริการของคลินิกทันตกรรมได้ด้วยว่า สามารถดูแลผู้ที่มาใช้บริการได้ดีหรือเปล่า


เลือกจัดฟันกับคลินิกทันตกรรมทันตกิจดีอย่างไร?

ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ เป็นคลินิกทันตกรรมที่ดูแลรอยยิ้มคนไทยมานานกว่า 77 ปี ในปัจจุบันเปิดให้บริการ 3 สาขา ได้แก่ ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ (สำนักงานใหญ่), ทันตกิจคลินิก ออลซีซั่นส์เพลส และทันตกิจคลินิก ประตูน้ำ ซึ่งทุกสาขามีทันตแพทย์เฉพาะทางทุกสาขาคอยให้การดูแล ทั้งการจัดฟัน จัดฟันอินวิสไลน์ ทันตกรรมเพื่อความงาม รวมไปถึงสาขาทันตกรรมรากเทียม และสาขาทันตกรรมประดิษฐ์ เพื่อการบริการทางทันตกรรมแบบครบวงจร ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาฟันและช่องปากรูปแบบไหน ต้องการจัดฟันในรูปแบบใด ก็สามารถทำได้ที่ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ


สรุปเรื่องวิธีเลือกคลินิกจัดฟัน

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 วิธีเลือกคลินิกจัดฟันที่เราแนะนำในบทความนี้ จะเห็นได้ว่าสามารถทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่นำรายชื่อคลินิกและรายชื่อแพทย์ไปตรวจสอบการขึ้นทะเบียนกับเว็บไซต์ของภาครัฐ ก็สามารถประเมินได้เบื้องต้นแล้วว่าคลินิกทันตกรรมนั้น ๆ ได้มาตรฐาน หรือน่าเชื่อถือหรือไม่ และสำหรับท่านใดที่ต้องการจัดฟัน แต่ยังไม่รู้จะไปจัดฟันที่ไหนดี ไม่รู้ว่า คลินิกทำฟันที่ไหนดี สามารถติดต่อนัดหมายปรึกษาทันตแพทย์ที่ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจได้เลย คุณหมอฟันของเราพร้อมที่จะดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดฟันอย่างเหมาะสม รับรองว่าคุณได้จะรับการรักษาทางทันตกรรมที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน



แนะนำวิธีเลือกคลินิกจัดฟันให้ได้มาตรฐานและปลอดภัย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/
ReplyReply Reply with quoteQuote
3  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / บัตรเครดิต Visa Platinum กสิกรไทย on: April 17, 2024, 03:57:58 am
บัตรเครดิต Visa Platinum กสิกรไทย

    รายได้ขั้นต่า 30,000  บาท ต่อเดือน
    ดอกเบี้ย 18% ต่อปี
    ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ฟรี !!
    ค่าธรรมเนียมรายปี ฟรี !!
    ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 45 วัน

จุดเด่นของบัตรเครดิต

    พักผ่อนก่อนบินที่ TG Lounge ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพียงแสดงบัตรเครดิตแพลทินัมคู่กับ Boarding Pass การบินไทย เมื่อเดินทางไปต่างประเทศโดยสายการบินไทยเท่านั้น
    – ใช้บริการที่ห้องรับรองพิเศษของสายการบินไทย (Royal Silk Lounge / Royal Orchid Lounge) ชั้นธุรกิจ บริเวณ Concourse C และ E ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อปีต่อผู้ถือบัตร 1 ท่าน (วันนี้ – 31 ธ.ค. 2560)
    เดินทางอย่างวางใจ ด้วยประกันอุบัติเหตุจากเครื่องบิน วงเงินสูงสุด 8,000,000 บาท เมื่อใช้บัตรเครดิตชำระค่าโดยสารยานพาหนะที่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะคุ้มครองคู่สมรส และบุตรที่มีอายุต่ำกว่า 23 ปี ในวงเงินสูงสุดท่านละ 8,000,000 บาท
    แบ่งจ่าย 0% ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ KBank Smart Pay
    Platinum Contact Center 02-888-8889 พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะต้องการสอบถามสิทธิประโยชน์ รายการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น อัตราแลกเปลี่ยน การเพิ่มวงเงินชั่วคราว หรืออายัดบัตร
    รับคะแนนสะสมแลกสิทธิพิเศษมากมาย ยอดใช้จ่าย 25 บาท = 1 คะแนน เลือกแลกรางวัลได้ ตามใจคุณ

บริการเสริมของบัตรเครดิต

    บริการ K-mAlert ปลอดภัย รูดเมื่อไหร่ รู้ผ่าน SMS เมื่อนั้น
    บริการ K-eMail Statement รับใบแจ้งยอดบัตรเครดิตได้ ไม่ต้องรอไปรษณีย์
    บริการ KBank Smart Bill Pay ช่วยคุณจัดการบิลค่าสาธารณูปโภค และค่าบริการต่างๆ ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย
    บริการสำหรับซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต ช้อปออนไลน์อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ด้วยรหัสผ่านที่ตั้งเอง

สิทธิพิเศษ

    พักผ่อนก่อนบินที่ TG Lounge ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพียงแสดงบัตรเครดิตแพลทินัมคู่กับ Boarding Pass การบินไทย เมื่อเดินทางไปต่างประเทศโดยสายการบินไทยเท่านั้น
    เดินทางอย่างวางใจ ด้วยประกันอุบัติเหตุจากเครื่องบิน วงเงินสูงสุด 8,000,000 บาท เมื่อใช้บัตรเครดิตชำระค่าโดยสารยานพาหนะที่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะคุ้มครองคู่สมรส และบุตรที่มีอายุต่ำกว่า 23 ปี ในวงเงินสูงสุดท่านละ 8,000,000 บาท
    Platinum Contact Center 02-888-8889 พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง
    รับคะแนนสะสมแลกสิทธิพิเศษมากมาย ยอดใช้จ่าย 25 บาท = 1 คะแนน เลือกแลกรางวัลได้ ตามใจคุณ
    บริการ KBank Smart Bill Pay ช่วยคุณจัดการบิลค่าสาธารณูปโภค และค่าบริการต่างๆ ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย
    บริการสำหรับซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต ช้อปออนไลน์อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ด้วยรหัสผ่านที่ตั้งเอง
    บริการ K-mAlert ปลอดภัย รูดเมื่อไหร่ รู้ผ่าน SMS เมื่อนั้น


เงื่อนไขการสมัคร
คุณสมบัติของผู้สมัคร

    อายุ 20 ปีขึ้นไป
    มีสัญชาติไทย
    ผู้สมัครจะต้องมีรายได้อย่างน้อย 30,000 บาทขึ้นไป สำหรับพนักงานประจำ และ30,000  บาทขึ้นไป สำหรับเจ้าของกิจการ
    อายุงานไม่น้อยกว่า 1 ปี สำหรับพนักงานประจำ และดำเนินธุรกิจมาไม่น้อยกว่า 3 ปี สำหรับเจ้าของกิจการ
    มีหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อได้
    ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์และเงื่อนไขของธนาคารฯ

เอกสารประกอบการสมัคร

    สำหรับผู้มีรายได้ประจำ

    สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ
    สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน
    สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3 เดือน หรือ 6 เดือนสำหรับ อาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน
    หนังสือรับรองเงินเดือน หรือ สลิปเงินเดือน เดือนล่าสุด (ฉบับจริง)
    สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ของผู้สมัคร

    สำหรับเจ้าของกิจการ

    สำเนาบัตรประชาชน
    หนังสือรับรองบริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด
    ทะเบียนการค้า หรือ หนังสือบริคณห์สนธิ (คัดสำเนาไม่เกิน 3 เดือนล่าสุดนับจากวันที่ออก)
    สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ของกิจการหรือของผู้กู้
    สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ของผู้สมัคร




บัตรเครดิต Visa Platinum กสิกรไทย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/creditcard/
ReplyReply Reply with quoteQuote
4  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / วิธีเพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย สู้โรคไม่&# on: April 16, 2024, 05:23:58 am
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อต่างๆ ทำให้หลาย ๆ บ้านเริ่มดูแลตัวเองด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) สร้างระยะห่างระหว่างตัวเองกับผู้อื่น เช่น ไม่ออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะ บางคนก็เริ่มทยอยเข้าสู่โหมด Work from home เปลี่ยนมาทำงานที่บ้านกันแล้ว รวมถึงเด็ก ๆ ที่ต้องหยุดอยู่บ้านจากการปิดโรงเรียน เราจึงมีวิธีดูแลตัวเองและคนที่รักขั้นพื้นฐานเพื่อดูแลสุขอนามัยทุกคนในบ้าน ที่สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์มาแบ่งปันกัน


1. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่

เพราะมือเป็นอวัยวะที่ต้องสัมผัสสิ่งของรอบตัวและยากที่จะหลีกเลี่ยง ยิ่งเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ในบ้านที่มักเผลอเอามือมาสัมผัสบริเวณใบหน้า ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งการล้างมือด้วยน้ำและสบู่อย่างถูกวิธีคือวิธีทำความสะอาดที่ดีที่สุด มีประสิทธิภาพช่วยลดการติดเชื้อ ทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะเด็กๆ จึงควรเสริมสร้างพฤติกรรมการล้างมือให้ติดนิสัย โดยการล้างมือเป็นประจำอย่างถูกวิธี ใช้เวลาอย่างน้อย 20 วินาที หรือเท่ากับร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ 2 รอบ วิธีล้างมือที่ถูกต้อง ทุกครั้งหลังจับสิ่งของ หลังกลับจากนอกบ้าน และก่อน-หลังทานอาหาร และควรใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดอื่น ๆ เช่น น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือ แอลกอฮอล์เจลความเข้มข้น 70% ขึ้นไป ในกรณีที่ออกไปนอกบ้าน หรือเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ ของบ้านเพิ่มเติม เช่น ห้องนั่งเล่น, โต๊ะทานข้าว เป็นต้น


2. ควรดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน

แค่การดื่มน้ำหรือจิบน้ำบ่อย ๆ ตลอดวัน ก็ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้เป็นปกติ ส่งผลให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่ แต่ที่สำคัญคือ ต้องหลีกเลี่ยงการใช้แก้วน้ำ หรือหลอดร่วมกับคนอื่นเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการรับเชื้อ-แพร่เชื้อระหว่างกันได้


3. กินอาหารมากวิตามิน

เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดโอกาสเจ็บป่วย
- กลุ่มวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง มะขามป้อม มะขามเทศ เกรปฟรุต สตรอเบอร์รี่ กระเจี๊ยบ ดอกขี้เหล็ก ยอดมะขาม ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- กลุ่มวิตามินอี เช่น ไข่แดง ปลาทูน่า ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
- กลุ่มพืชสมุนไพรและเครื่องเทศ เช่น กระเทียม หัวหอม ขิง ข่า ขมิ้นชัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรง และพื้นฐานโภชนาการที่สำคัญที่สุดคือ ควรเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่ ปรุงสุกสดใหม่และสะอาดปลอดภัย รวมทั้งต้องใช้ช้อนกลางเสมอแม้จะอยู่ที่บ้าน เพื่อสุขอนามัยที่ดีทั้งครอบครัว


4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

วันละ 30-60 นาที ช่วยเสริมกำลังกล้ามเนื้อและสร้างสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย แน่นอนว่าในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ทุกคนควรหลีกเลี่ยงการไปออกกำลังกายในที่ที่มีคนแออัด เช่น ฟิตเนส สนามกีฬา สระว่ายน้ำ แต่เรายังสามารถเลือกออกกำลังกายที่บ้านได้ง่ายๆ (Work Out at Home) ด้วยการออกสเตปขณะทำงานบ้าน เช่น ตากผ้าพร้อมสควอตเกร็งกล้ามเนื้อขา ถูบ้านโยกซ้ายขวาเผาผลาญพลังงาน เช็ดพื้นด้วยท่าแพลงก์หน้าไร้พุง ขัดห้องน้ำลุกนั่งกระชับสัดส่วน เป็นต้น หรือเลือกออกกำลังกายง่าย ๆ เช่น ซิตอัปบนเตียง ดูซีรี่ส์พร้อมปั่นจักรยานอากาศ ยกขวดน้ำสร้างกล้ามแทนดัมเบล เป็นต้น ช่วงที่ต้องอยู่บ้านนี้ เป็นโอกาสดีที่จะชวนทุกคนมาช่วยกันทำงานบ้าน เพราะได้ประโยชน์ถึง 3 ต่อ คือ ได้ทำความสะอาดครั้งใหญ่ ได้เชื่อมความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และยังได้สุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน


5. ทำอารมณ์ให้แจ่มใส

จากข้อมูลข่าวสารหลากหลายแหล่ง ทำให้การเสพข่าวในช่วงนี้อาจกระทบสุขภาพจิตใจหลายคนให้แย่ลง จากความเครียด วิตกกังวล และความหวาดกลัว จึงควรเลือกรับข่าวสารอย่างมีสติ ตรวจสอบและเลือกอ่านข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น อีกวิธีคลายเครียด คือใช้โอกาสช่วงนี้ในการเริ่มพัฒนาทักษะ หรือทำงานอดิเรกที่ชอบ เช่น ลงเรียนคอร์สออนไลน์ อ่านหนังสือ ดูซีรีส์ ฝึกทำอาหาร ปลูกต้นไม้ ฝึกเต้น เป็นต้น


 


วิธีเพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย สู้โรคไม่ป่วยง่าย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/
ReplyReply Reply with quoteQuote
5  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / รถรับจ้างขนของเชียงใหม่: รถรับจ้างขนขอ& on: April 14, 2024, 10:21:25 am
รถรับจ้างขนของจังหวัดเชียงใหม่ กับการขนย้ายที่ลงตัวสุดๆในครั้งก่อนมีรถรับจ้างจำนวนไม่มากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปรถรับจ้างก็ได้มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และมีความสำคัญกับผู้คนมากในปัจจุบัน

รถรับจ้างขนของเชียงใหม่ก็ขยับขยายตามไปด้วย ในปัจจุบันมี

รถรับจ้างขนของอยู่ในความดูแลและให้บริการของมีจำนวนมาก เรียกได้ว่ามีเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่จะมาใช้บริการในแต่ละวัน เรามีบริการรถขนของทุกประเภท ไม่ได้มีบริการรถรับจ้างประเภทเดียว ทว่าให้บริการรับจ้างหลายประเภทด้วยกันเช่น รถรับจ้างย้ายบ้านเชียงใหม่ รถกระบะรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง  รถสิบล้อรับจ้าง  รถหกล้อรับจ้างและรถประเภทอื่นๆ อีกอย่าง ครบถ้วนและสมบูรณ์แบบ

เราเข้าใจในธุรกิจของคนที่ต้องใช้บริการรับจ้างขนย้ายประเภทต่างๆเราจึงมีรถรับจ้างขนย้ายชนิดต่างๆ นำเข้ามาให้บริการลูกค้าในตอนนี้เรามีครบทุกประเภทแล้วค่ะ จนท่านต้องการใช้บริการกับเราใช้รถอะไรก็ได้ แล้วแต่ความต้องการของท่าน ส่วนในการจองล่วงหน้าในการขนย้ายของของท่านนั้น รถรับจ้างขนย้ายเชียงใหม่ มีการขนย้ายขนของที่ให้บริการได้ทุกวันตามที่คุณต้องการใช้บริการ ไม่ว่าจะวันเวลาไหนการที่ท่านโทรมาสั่งจองล่วงหน้าย่อมเป็นสิ่งที่สะดวก เพราะระเบียบของเราต้องสั่ง

จองล่วงหน้าอยู่แล้วค่ะ ถ้าเป็นรถที่ด่วนต้องจองล่วงหน้า3-4 ชั่วโมง ทางทีมงานของเราจะได้จดบันทึกลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการตามลำดับเพื่อเป็นการไม่วุ่นวายและไม่ลืม จะดำเนินตามวันและเวลาที่กำหนดที่ท่านต้องการทุกงานไปตามลำดับ และ

รถรับจ้างเชียงใหม่ มีการพัฒนาการบริการขนย้ายอยู่ตลอดเวลามีความเป็นกันเองให้บริการอย่างรวดเร็วทันใจ บริการอย่างมีคุณภาพและได้มาตรฐานเป็นหลัก เพื่องานบริการที่ได้ออกมามีคุณภาพที่ดีหากพบว่า รถรับจ้างขนย้ายเชียงใหม่

ของเรามีข้อบกพร่องในเรื่องใดประการใด ทางเรายินดีนำมาปรับปรุงในการบริการในครั้งต่อไป ให้ดียิ่งขึ้นกว่าครั้งเดิมค่ะ แน่นอนว่าราคาที่เราให้บริการนั้นจะเป็นราคาจากหลักร้อยไปถึงหลักพันการที่ท่านจะใช้บริการเราได้คือท่านต้องโอนมัดจำให้เราก่อนราคา1000 บาท แล้วท่านก็นัดวันเวลาที่ท่านจะขนก็จะได้สิทธิ์นั้นในการใช้บริการอย่างทันทีค่ะ

เมื่อท่านมาขอใช้บริการเราอย่างเร็วท่านก็จะได้สิทธิ์ในการให้บริการจ้างอย่างเร็วตามที่ท่านได้มาใช้บริการกับเรา หากท่านมาใช้บริการเราเร็วท่านก็จะได้โอกาสดีๆ อย่างเร็วค่ะ เพราะเราต้องการเลือกสิ่งที่ดีให้ลูกค้าได้บริการที่ดี เราบริการอย่างเต็มที่บริการอย่างสุจริตและบริการด้วยใจใช้บริการ รถรับจ้าง กับทีมงานขนส่ง

รถรับจ้างขนของเชียงใหม่  รถกระบะรับจ้างเชียงใหม่  รถหกล้อรับจ้างเชียงใหม่  และอื่นๆ ท่านจะอุ่นใจยิ่งขึ้นกับการบริการของเรามาพร้อมกับความต้องการของลูกค้า และการใช้บริการ รถรับจ้างขนของ ในพื้นที่และทางเราเห็นเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ให้บริการ รถรับจ้างขนย้ายของ ให้กับท่าน ในพื้นที่โดยคนขับรถจะเป็นคนในพื้นที่ที่มีความชำนาญในเส้นทางสูง คุณจะรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งเมื่อที่ได้รับการบริการ รถรับจ้างเชียงใหม่ ของเราจะใกล้หรือไกลเราบริการท่านได้

เราบริการลูกค้าทุกคนต่อให้ระยะทางจะไกลเพียงใด เราสามารถใช้บริการได้ทุกที่ทั่วไทยเพราะเราเข้าใจความต้องการของลูกค้า ที่อาจจะมีปลายทางที่ท่านต้องการขนย้ายอยู่คนละจังหวัด แต่การบริการขนย้ายที่ไม่จำกัดในพื้นที่แต่ยังให้บริการทั่วทุกจังหวัดในประเทศอีกด้วย

สนใจเรียกใช้บริการ  รถรับจ้างขนของเชียงใหม่ กับเราได้ตลอดเวลาโดยที่ท่านไม่ต้องเกรงใจ สามารถตรวจเช็คราคาค่าขนย้ายกับเราได้เลย แต่เราจะให้ราคาที่อยู่ในมาตรฐานให้กับท่านโดยที่ราคาของเราถูกและน่าใช้บริการ เราอยากให้ท่านลองเปิดใจใช้บริการรับจ้างกับเราท่านจะรู้เลยว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เรากล้ารับประกันความพึงพอใจ


รถรับจ้างขนของเชียงใหม่: รถรับจ้างขนของจังหวัดเชียงใหม่ บริการยังไง มีรถแบบไหนบ้าง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กทที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/105
ReplyReply Reply with quoteQuote
6  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / Mitsubishi Triton 2024: ลองขับ Mitsubishi Triton Ultra 4WD AT 2024 ใหม่ ตัวท็อปข on: April 12, 2024, 12:15:42 am
ลองสัมผัส All-new Mitsubishi Triton Double Cab รุ่น Ultra 4WD AT ตัวท็อปขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครันที่สุด กับราคาจำหน่าย 1,228,000 บาท จะน่าใช้ขนาดไหนติดตามได้ในบทความนี้ครับ


แม้ว่า All-new Mitsubishi Triton เจเนอเรชันที่ 6 จะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา แต่ก็เป็นการเปิดตัวล็อตแรกเพียง 8 รุ่นย่อยเท่านั้น ขณะที่รุ่น Double Cab Ultra 4WD AT ที่เรากล่าวถึงในบทความนี้ถูกเปิดตัวตามมาเป็นล็อตที่ 2 ควบคู่ไปกับการประกาศราคาเบื้องต้นของ Triton Athlete ที่วางให้เป็นตัวท็อปสุด (จริงๆ) นั่นเอง

ภายนอกของ Triton Ultra 4WD AT ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่ ระบบไฟหน้า LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน, ไฟตัดหมอกหน้า LED, ไฟท้าย LED, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า, บันไดข้างตกแต่งด้วยสีเงิน, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว


ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังสลับหนังสังเคราะห์ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางฝั่งผู้ขับ พร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ LCD 7 นิ้ว, กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา, ระบบหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (Rear Air Circulator) และกุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ฯลฯ

ส่วนหน้าจออินโฟเทนเมนท์เป็นแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบนำทางในรถยนต์ (Embedded Navigation), ช่องจ่ายไฟ USB-A 2 ตำแหน่ง และ USB-C 2 ตำแหน่ง, ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) และลำโพง 6 ตำแหน่ง


จุดเด่นสำคัญของรุ่น ULTRA 4WD AT คือการเพิ่มระบบเชื่อมต่อ Mitsubishi Connect ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน My MITSUBISHI CONNECT บนสมาร์ทโฟนทั้งระบบ Android และ iOS เพื่อควบคุมจากระยะไกลผ่านสัญญาณเครือข่ายมือถือได้ ไม่ว่าจะเป็นการล็อก-ปลดล็อกประตูรถ, การสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเปิดระบบปรับอากาศ,​ เปิดไฟส่องสว่าง, การเปิดสัญญาณแตร และการค้นหาตำแหน่งตัวรถได้

นอกจากนี้ บริการ Mitsubishi Connect ยังสามารถตรวจสอบระดับน้ำมันคงเหลือและระยะทางขับขี่จากปริมาณน้ำมันที่เหลือ และแรงดันลมยาง รวมถึงมีฟังก์ชันความปลอดภัยอื่นๆ เช่น บริการช่วยเหลือบนท้องถนน (Roadside Assistance), บริการแจ้งอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ, การช่วยเหลือหากรถถูกโจรกรรม รวมถึงระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS (e-call)

สังเกตง่ายๆ ว่ารถที่มีระบบ Mitsubishi Connect จะมีปุ่มโทรออกฉุกเฉิน SOS ติดตั้งไว้บริเวณเพดานหลังคาใกล้กับตำแหน่งไฟอ่านแผนที่ โดยปุ่มดังกล่าวจะเป็นการโทรออกไปยังศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินหากประสบเหตุต่างๆ หรือหากว่าตััวรถเกิดอุบัติเหตุรุนแรงจนทำให้ถุงลมนิรภัยพองตัวออก ระบบจะทำการโทรออกฉุกเฉินอัตโนมัติเพื่อขอรับการช่วยเหลือหากจำเป็น


ในรุ่น Ultra 4WD AT ยังมีการเพิ่มเติมล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) มาให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบความปลอดภัย Diamond Sense ที่มีฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ได้แก่

    ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM)
    ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW)
    ระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA)
    ระบบสัญญาณเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA)
    ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (AHB)
    กล้องมองภาพรอบคัน (MAM)

ขณะที่ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC), ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS), ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD), ระบบเสริมแรงเบรก (BA), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC), ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL), ลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้ายแบบควบคุมด้วยเบรก (Active LSD) และถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง


Mitsubishi Triton Double Cab 4WD ULTRA AT ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ Hyper Power ความจุ 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II และโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ได้แก่ Normal, Eco, Gravel, Snow, Mud, Sand และ Rock พร้อมระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง Active Yaw Control (AYC)

ในด้านการขับขี่ของ All-new Mitsubishi Triton รุ่น Double Cab 4WD ULTRA AT เราได้มีโอกาสทดสอบขับกันเพียงสั้นๆ ที่สนามหนองค้อเซอร์กิต โดยสัมผัสได้ถึงช่วงล่างที่นุ่มนวล สามารถเคลื่อนตัวผ่านลูกระนาดได้โดยไม่ส่งแรงสะเทือนตึงตังเข้ามายังห้องโดยสาร เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ซึ่งอันที่จริงการตอบสนองของช่วงล่างก็แทบไม่ต่างไปจากรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่เราเคยทดสอบไปแล้วก่อนหน้านี้ (>> รีวิว All-new Mitsubishi TRITON หล่อ เรียบหรู สมรรถนะจัดจ้าน ตอบโจทย์สายกระบะ)


ส่วนในแง่การขับขี่แบบออฟโรดก็ทำได้ดี แม้ว่าสนามออฟโรดในครั้งนี้จะไม่ได้ถึงกับโหดมากนัก แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นการทำงานของโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Mud ในช่วงขับผ่านพื้นผิวแบบโคลน ซึ่งควบคุมการตอบสนองของคันเร่งเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้อย่างง่ายดายจนแทบไม่มีอะไรน่ากังวลเลย

ในช่วงจังหวะการขับขี่แบบออฟโรดยังสามารถเปิดเรียกใช้ระบบกล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor) ซึ่งจะทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 10 กม./ชม. ช่วยให้มองเห็นทัศนวิสัยรอบคันได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไต่เนินสลับและการลุยบ่อน้ำ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีฟีเจอร์ประเภท Transparent Bonnet เพื่อให้มองเห็นอุปสรรคใต้ท้องรถมาให้


ส่วนราคาจำหน่ายของ All-new Mitsubishi Triton รุ่น Double Cab 4WD ULTRA AT ถูกตั้งเอาไว้ที่ 1,228,000 บาท แลกมากับความสดใหม่ที่สุดในตลาด สมรรถนะและความน่าเชื่อถือตามฉบับมิตซูบิชิ



Mitsubishi Triton 2024: ลองขับ Mitsubishi Triton Ultra 4WD AT 2024 ใหม่ ตัวท็อปขับสี่ล้อ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/mitsubishi/triton/
ReplyReply Reply with quoteQuote
7  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / COVID-19! OMICRON ทำไมถึงต้องจับตามอง? on: April 11, 2024, 07:45:37 am
โควิดสายพันธุ์โอมิครอน กำลังแพร่ระบาดอย่างแพร่หลายทั้งในกรุงเทพมหานคร และทั่วประเทศไทย หมอคิดว่าการแพร่ระบาดในครั้งนี้ wave ที่ 5 ของประเทศไทย น่าจะกินเวลาอย่างน้อย 2 – 3 เดือน และน่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่าคราวที่แล้ว อย่างไรก็ตามหมอคิดว่าอาการน่าจะรุนแรงน้อยลงกว่า เมื่อช่วงประมาณ 4 – 6 เดือนที่แล้ว แต่ว่าอาการที่น้อยลงไม่ได้แปลว่าอาการน้อย อาการที่น้อยลง เราก็ยังคงต้องสังเกต และจะต้องดูแลผู้สูงอายุ และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะหากเกิดติดเชื้อจะเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรงได้


COVID-19! OMICRON ทำไมถึงต้องจับตามอง?

เมื่อไรที่จะต้องตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิด-19 หมอขอแบ่งเป็น 2 กรณีด้วยกัน คือ สำหรับผู้ที่มีอาการ และผู้ที่ไม่มีอาการ

กรณี 1) สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการ และได้มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่ได้รับเชื้อโควิด-19 มาแล้ว แนะนำให้ตรวจหาเชื้อ โดยควรตรวจหลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อมาแล้ว 3 – 5 วัน ในระหว่างนี้ ให้ใส่หน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่าง ตรวจสอบตัวเองว่าได้รับวัคซีนครบแล้วหรือยัง ถ้าเกิดว่าฉีดวัคซีนครบโดส หรือฉีดครบ 2 เข็มแล้ว บวกกับได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือ Booster Dose แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกักแยกตัวเอง ให้ใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

กรณี 2) สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ อาการที่ว่านี้ก็คือ อาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจส่วนบน ในภาวะที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง แนะนำให้ตรวจทุกรายในผู้ที่มีอาการเหล่านี้ ได้แก่ อาการไข้ ไอ ปวดตัว เจ็บคอมาก มีน้ำมูก เคืองคอ ปวดตัวแบบไม่ทราบสาเหตุ

ข้อดีหรือประโยชน์ของการตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิด-19 นี้ คือ เมื่อไรก็ตามที่เรารู้ว่าเราได้รับเชื้อมา เราจะได้แยกตัวออกมาอย่างน้อย 10 วัน เพื่อลดความเสี่ยงในการที่จะแพร่กระจายเชื้อให้ผู้ป่วยท่านอื่นๆ อีกทั้งเราจะได้สบายใจด้วยว่าเราไม่ได้รับเชื้อมา


เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ควรทำอย่างไร?

คุณเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือยัง? ใครบ้างที่ควรตรวจ ATK

วิธีการตรวจ COVID-19 ด้วย ATK กับ RT-PCR ต่างกันอย่างไร?

อีกคำถามหนึ่งที่กำลังเป็นที่สงสัยของใครหลายๆ คน ก็คือ ATK หรือ Antigen Test Kit ต่างจากการตรวจด้วยวิธี RT-PCR อย่างไร?

Antigen Test Kit หรือ ATK จะเป็นการตรวจหาเศษส่วนของเชื้อ โดยชุดตรวจ ATK นี้เราสามารถตรวจเองได้ที่บ้าน โดยมีหลายวิธี ตั้งแต่วิธีการ Swab จมูก, Swab คอ และชุดตรวจแบบน้ำลาย แนะนำว่าให้ใช้ชุดตรวจที่ได้รับมาตรฐานตามที่ WHO แนะนำ โดยควรใช้ชุดตรวจที่ระบุไว้ข้างกล่องว่าเป็นวิธี Lateral Flow Technique (LTF) วิธีนี้มีความแม่นยำ 60-90% ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อของชุดทดสอบ

การตรวจแบบ LTF นี้ เหมาะสำหรับทุกคน สามารถใช้งานง่าย และทราบผลรวดเร็ว โดยจะแสดงผลตรวจภายในเวลาประมาณ 15 – 30 นาที ข้อควรระวังในการใช้ชุดตรวจ ATK ที่สำคัญคือ ไม่แนะนำให้ตรวจให้คนอื่น เพราะเนื่องจากถ้าเราไม่มีเชื้อ และไปตรวจให้กับผู้ที่ติดเชื้อ โดยที่ไม่ได้ใส่ชุด PPE หรือชุดป้องกันที่ถูกต้อง อาจจะทำให้ได้รับเชื้อมาในระหว่างที่ตรวจให้ผู้อื่นได้

    ชุดตรวจโควิดแบบ Swab จมูก/คอ มีขั้นตอนการตรวจไม่ยุ่งยาก ใช้ระยะเวลาในการรอผลทดสอบไม่นาน
    ชุดตรวจโควิดแบบทดสอบน้ำลาย เหมาะสำหรับคนที่ไม่มั่นใจว่าจะ Swab ได้ถูกต้องหรือไม่ ช่วยลดอาการระคายเคือง และลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บขณะ Swab เหมาะกับผู้สูงวัยและเด็กเล็ก

ส่วนวิธีการตรวจ RT-PCR จะเป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อ โดย Swab เข้าไปในโพรงจมูกและในคอเพื่อความแม่นยำในการตรวจ วิธีนี้จะมีความแม่นยำ 95 – 99% ยิ่งมีเชื้อเยอะจะยิ่งตรวจเจอได้เร็วขึ้น ซึ่ง RT-PCR เป็นวิธีที่จะยืนยันการวินิจฉัยโรคโควิด-19 โดยการตรวจด้วยวิธีนี้เราจะไม่สามารถตรวจได้เองที่บ้าน จะต้องมาตรวจที่โรงพยาบาลเท่านั้น


ผลตรวจ ATK เป็นบวก เอายังไงต่อดี?

เมื่อเราตรวจ ATK ด้วยตนเองแล้ว ขึ้นสองขีด หมายถึง ผลเป็น Positive (+) ต้องทำอย่างไรต่อดี? อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ผลตรวจของ ATK มีความแม่นยำประมาณ 60 – 90% ซึ่งอาจจะมีผลบวกลวงหรือผลลบลวงได้

    ผลลบลวง (False Negative) หมายถึง เป็นผู้ติดเชื้อ แต่ให้ผลการทดสอบเป็นลบ (-)

    ผลบวกปลอม (False Positive) หมายถึง ไม่ได้ติดเชื้อ แต่ให้ผลการทดสอบเป็นบวก (+)

หากตรวจ ATK ด้วยตนเองแล้ว ผลเป็นบวก (+) แนะนำให้มาทำ การตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR ที่โรงพยาบาลเพื่อเป็นการยืนยันผลวินิจฉัย โดยแนะนำให้ไปโรงพยาบาลที่ใกล้และสะดวกที่สุด หรือใช้สิทธิ์รักษาที่โรงพยาบาลนั้น โดยในระหว่างที่รอจะไปทำ RT-PCR ให้แยกตัวจากคนในครอบครัวก่อน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา คำนึงเสมอว่าเรายังสามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นๆ ในครอบครัวได้ ที่สำคัญอย่าเพิ่งตกใจหรือกังวลไป ให้รีบหาโรงพยาบาลที่ทำ RT-PCR ก่อน อาจจะติดต่อโทร.1330 สายด่วนสปสช. หรือว่าโทรมาที่โรงพยาบาลศิครินทร์ 1728

หลังจากที่ตรวจด้วยวิธี RT-PCR จะไม่สามารถทราบผลได้ในทันที ต้องรอผลอย่างน้อย 4 – 8 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณจำนวนของผู้ป่วยในแต่ละโรงพยาบาลด้วย สำหรับโรงพยาบาลศิครินทร์ผู้ป่วยสามารถเช็กผลตรวจ RT-PCR นี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ โดยการสแกน QR-Code ซึ่งผู้ป่วยสามารถตรวจสอบผลตรวจได้ด้วยตนเองหลังจากที่มาตรวจที่โรงพยาบาลประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง

*กรุณากรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วนก่อนเข้ารับการตรวจ Covid-19

กรณีที่ผลการตรวจ RT-PCR เป็นบวก คือ เป็นผู้ได้รับเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะต้องประเมินอาการและรับการรักษา หมอก็จะแบ่งคนไข้ออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล จะเป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว (กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว คือ ผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย) และกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรครุนแรงในภายหลัง

กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ความเสี่ยงที่จะเกิดโรครุนแรงในภายหลัง โดยจะเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่อายุมาก โดยมีอายุตั้งแต่อายุ 65 ปีขึ้นไป หรือว่ามีโรคประจำตัวที่อาจจะทำให้โควิด-19 รุนแรงขึ้นถึงแม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอนก็ตาม


กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่

ผู้สูงอายุ อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
ผู้ที่ตั้งครรภ์
ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคปอด

   
ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด

ผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 แบบไหน? เข้าเกณฑ์การทำ Home Isolation

Home Isolation หรือการกักตัวที่บ้าน คือ อีกหนึ่งวิธีในการดูแลตัวเอง สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มสีเขียว ที่ไม่มีอาการแสดง หรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อย สำหรับผู้ป่วยที่แพทย์ประเมินแล้วว่าสามารถรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้

การการทำ Home Isolation จะต้องไม่ใช่ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ และไม่มีอาการปอดอักเสบ ส่วนกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจะต้องมารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ได้แก่

    ผู้ป่วยที่มีอาการมาก เช่น ไข้สูงมาก
    น้ำหนักตัวมาก, BMI หรือดัชนีมวลกาย มากกว่า 28
    ไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน
    ผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบตั้งแต่แรก

สำหรับโรงพยาบาลศิครินทร์ จะมีการคัดแยกผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มผู้ป่วยที่จะต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะมีการโทรศัพท์แจ้งให้เตรียมตัวและจะส่งรถไปรับที่บ้านเพื่อมาทำการรักษาต่อไป 2) สำหรับกลุ่มที่ไม่จำเป็นที่จะต้องนอนโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะมี Hotel Isolation ซึ่งการประเมินวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับลักษณะต่างๆ และอาการของผู้ป่วยที่หมอได้ระบุไว้ข้างต้น


ผู้ป่วยโควิด เมื่อต้อง ‘Home Isolation’ หรือแยกกักตัวที่บ้าน ต้องทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย ?

ดูแลตัวเองอย่างไรให้รอดจากสายพันธุ์โอมิครอน?

การจะดูแลตัวเองให้รอดจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนนี้ หมอขอแนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 Booster Dose โดยแบ่งเป็น 2 กรณี

ผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อนเลย ควรฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็ม โดยแนะนำให้รับวัคซีนชนิด mRNA

    ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนมาแล้ว

วัคซีนโควิดมีกี่ชนิด?

    กลุ่มที่ได้รับวัคซีนเชื้อตาย (Inactivated Vaccines)
        Sinovac + Sinovac
        Sinopharm + Sinopharm

หากรับวัคซีนมานานเกิน 4 สัปดาห์ ขึ้นไป ให้รับวัคซีนเข็ม 3 (Booster Dose) โดยแนะนำให้รับวัคซีนชนิด mRNA

    กลุ่มที่ได้รับวัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ (Viral Vector Vaccines)
        AstraZeneca + AstraZeneca
        Sinovac + Astrazeneca

หากได้รับวัคซีนมาแล้ว ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ให้รับวัคซีนเข็ม 3 (Booster Dose) โดยแนะนำให้รับวัคซีนชนิด mRNA

ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ฉีดเมื่อไรดี?

วิธีการป้องกันตัวเองอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือการใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด และการรักษาระยะห่างจากคนอื่นให้ห่างเกิน 1.5 เมตร หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่อับอากาศ สถานที่อากาศไม่ถ่ายเท ในลิฟต์ถ้ามีคนเกิน 6 คน อย่าเข้าไป แนะนำให้รอก่อน และหมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยทุกครั้งที่จะสัมผัสใบหน้า จมูก และตาของตัวเอง ให้คำนึงเสมอว่าที่มือของเรา อาจจะมีเชื้อก่อโรคโควิด-19 อยู่ด้วย

สำหรับใครที่มีผู้สูงอายุ หรือว่าผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรครุนแรงอยู่ที่บ้าน ให้แยกคนไข้กลุ่มนี้ออกจากคนอื่นๆ อย่างเช่น เราต้องออกไปทำงาน หรือออกไปนอกบ้าน ก่อนที่จะไปกอดหรือไปสัมผัสผู้สูงอายุ คุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ที่บ้าน  ควรอาบน้ำ สระผม ล้างมือให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปเจอท่าน ไม่อย่างนั้น เราอาจจะเป็นคนที่นำเชื้อไปหาคนที่คุณรักโดยที่ไม่รู้ตัว

สุดท้ายนี้หมอก็อยากจะให้ทุกคนรอดพ้นจากวิกฤตโควิด-19 ที่คิดว่าน่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  ขอให้เรารอดพ้นจากวิกฤตินี้ไปด้วยกันค่ะ



COVID-19! OMICRON ทำไมถึงต้องจับตามอง? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/covid-19
ReplyReply Reply with quoteQuote
8  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / จัดฟันบางนา: ฟันขาวอยู่ได้นานเท่าไหร่ on: April 10, 2024, 10:10:11 am
หลายคนอยากมีฟันที่ขาวสะอาด ดูสวยเป็นธรรมชาติ แต่ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันและพฤติกรรมการรับประทานอาหาร จึงอาจจะทำให้เรามีฟันที่เหลือง ดูไม่สะอาด ไม่สวยงาม และทำให้เกิดความไม่มั่นใจเวลายิ้ม ปัญหา ฟันเหลืองนั้น ถือเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของใครหลายๆ คน และอาจจะทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเวลาที่ต้องยิ้ม เพราะรอยยิ้มที่สดใส ฟันที่ขาวสว่าง ดูสะอาด นับเป็นบุคลิกภาพที่ดูดี เป็นที่ประทับใจเมื่อต้องพบปะพูดคุย นอกจากหน้าตา ผิวพรรณ และรูปร่าง เป็นการช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ แล้วการที่เรมีสุขภาพฟันที่ดี ก็ช่วยในเรื่องของบุคลิกภาพได้มาก


อย่างไรก็ตาม หลายคนกลับพบปัญหาสีฟันเหลืองหรือสีเทา ซึ่งอาจจะมาจากหลายสาเหตุ แต่กลับสร้างความไม่มั่นใจเหมือนๆ กัน เพื่อเรียกคืนความมั่นใจแบบไม่ต้องกังวล ฟันเหลือง อีกต่อไป สามารถแก้ไขได้ โดยวิธีทำให้ฟันขาว ต้องเริ่มจากหาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้เสียก่อน และต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่นำสู่การเกิดปัญหาฟันเหลือง ซึ่งในปัจจุบันการแก้ไขปัญหาฟันเหลืองนั้น สามารถทำได้ด้วยการรักษาทางด้านทันตกรรมหรือที่เรียกว่า การฟอกสีฟัน ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาฟันเหลืองให้กลับมามีสีฟันที่ขาวสะอาด เป็นธรรมชาติได้อีกครั้ง ซึ่งต้องถือว่าการฟอกสีฟันนั้น ได้รับความนิมเป้นอน่างมาก เพราะช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการรักษาทางด้านทันตกรรมในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นการฟอกสีฟัน สำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเหลือง ที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเวลาที่ต้องยิ้มหรือพูดคุย แต่หลายคนก็อาจจะเคยผ่านการฟอกสีฟันมาแล้ว แต่หัวข้อในวันนี้คือ เราจะมาพูดระยะเวลาของการฟอกสีฟันว่า เมื่อเราได้รับการฟอกสีฟันแล้ว ฟันที่กลับมาขาวอีกครั้งของเรานั้น จะอยู่ได้นานแค่ไหน รวมไปถึงพูดถึงความเสี่ยงมนการฟอกสีฟันด้วย เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่มีความต้องการที่จะแก้ไขปัญหาฟันเหลืองให้กลับมาดูขาวสะอาดอีกครั้ง ก่อนอื่นนั้น ต้องบอกก่อนว่า การฟอกสีฟันนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ถ้าหากเราหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดฟันเหลืองได้ ก็ถือว่าเป็นวิธีการป้องกันอีกระดับหนึ่ง ซึ่งการที่เรามีฟันเหลืองนั้น อาจจะเกิดได้จาก พฤติกรรมการสูบบุหรี่ สำหรับผู้ทีสูบบุหรี่จัด ซึงอาจจะมักพบได้ในวัยรุ่น วันทำงาน หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุที่มีพฤติกรรมติดบุหรี่


ซึ่งการสูบบุหรี่นั้น เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดฟันเหลือง จะเห็นได้ว่าผู้ที่สูบบุหรี่ส่วนใหญ่แล้วจะมีฟันเหลืองหรือสีฟันที่คล้ำลง ไม่น่ามอง บางรายอาจเกิดคราบดำตามซอกฟัน ซึ่งคราบเหล่านี้มาจากสารนิโคตินที่อยู่ในบุหรี่ และยังส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันในด้านอื่นๆได้ เช่น ทำให้เกิดกลิ่นปาก ทำให้เกิดโรคเหงือก ทำให้เกิดคราบหินปูน ที่ยากต่อการทำความสะอาด ดังนั้น การสูบบุหรี่ถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพช่องปากและฟัน รวมไปถึงยังทำให้เกิดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งและปัญหาสุขภาพด้านอื่นๆอีกด้วย  สาเหตุต่อมาก็ถือว่าเป็นสาเหตุที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ การดื่มเครื่องดื่มชาและกาแฟ มีส่วนทำให้ฟันเหลือง เพราะทำให้เกิดคราบเกาะตามฟันและซอกฟัน โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มชาเป็นประจำ ทำให้เกิดคราบติดอยู่บนเนื้อฟัน นอกจากนั้น ชาและกาแฟ มีความเป็นกรดสูง ส่งผลให้ชั้นเคลือบฟันตามธรรมชาติบางลงและทำให้คราบสามารถเกาะฝังอยู่ที่ฟันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย นี่ก็เป็นสาเหตุหลักๆของการเกิดฟันเหลือง และสำหรับผู้ที่ต้องเข้ารับการฟอกสีฟัน ก็อาจจะสงสัยว่า เมื่อฟอกสีฟันแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน


สำหรับระยะเวลาที่จะทำให้เรามีฟันขาวได้ หลังจากที่เข้ารับการฟอกสีฟันนั้น ต้องบอกว่าขึ้นอยู่การใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล และการรับประทานอาหารด้วย ดังนั้น หลังจากการฟอกสีฟัน ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นสาเหตุของการเกิดฟันเหลือง จามที่เราได้บอกไปข้างต้น ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์หลังการฟอกสีฟันอย่างเคร่งครัดถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ดี และที่สำคัญผู้เข้ารับการรักษาควรรักษาความสะอาดของช่องปากให้ถูกวิธีเพื่อที่จะได้มีฟันที่ขาวสะอาด สำหรับใครที่สนใจเข้ารับการฟอกสีฟัน สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกได้ ทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา และยังมีโปรโมชั่นดีๆ สำหรับผู้ที่สนใจ โดยการฟอกสีฟันของทางคลินิกราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 5,900 บาท จากปกติราคา 8,000 บาท เพื่อให้ผู้ที่มีปัยหาได้กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง



จัดฟันบางนา: ฟันขาวอยู่ได้นานเท่าไหร่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/
ReplyReply Reply with quoteQuote
9  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / โปรโมชั่นแท็บเล็ต HUAWEI MatePad 10.4" แท็บเล็ตขุมพลัง$ on: April 10, 2024, 12:39:54 am
ปี 2021 นี้ หัวเว่ยได้เปิดตัว HUAWEI MatePad แท็บเล็ตตัวเล็กที่ย่อส่วนจากรุ่นพี่อย่าง MatePadPro 5G แต่สเปคไม่ได้ย่อเลย ด้วยหน้าจอ FullView Display ขนาด 10.4 นิ้ว ชิปเซ็ต Kirin 820 ให้ความเร็ว แรง มอบประสบการณ์ความบันเทิงอย่างเหนือชั้น เสริมด้วยประสิทธิภาพการถ่ายโอนข้อมูลด้วยการรองรับ WiFi 6 เป็นรุ่นแรกของทางหัวเว่ย เรียกว่าพร้อมตอบโจทย์การใช้งานทั้งความบันเทิง ทำงาน และการเรียนรู้ ทั้งหมดนี่ในราคาเพียง 9,990 บาท! พิเศษสำหรับคนที่สั่งซื้อในช่วง Early Bird รับฟรี HUAWEI Smart Keyboard มูลค่า 1,990 บาท นั่นเท่ากับว่าเราจะได้ HUAWEI MatePad ในราคา 8000 บาทเท่านั้น! มาดูกันเลยค่ะว่าในราคาแปดพันบาทนี้เราจะได้อะไรบ้าง

กล่อง และอุปกรณ์
HUAWEI MatePad มาในกล่องสีขาวดีไซน์เรียบหรู ปั้มแบรนด์และรุ่นของอุปกรณ์ พร้อมข้อมูลขนาดหน้าจอ การรองรับแอปพลิเคชั่นและวายฟาย ข้อมูลหน่วยความจำ และสีของตัวเครื่อง

อุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย ตัวเครื่องแท็บเล็ต HUAWEI MatePad สี Midnight Grey, อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 10W, สายชาร์จ USB Type-C, เข็มจิ้มถาดการ์ดหน่วยความจำ microSD, สายเคเบิ้ลอะแดปเตอร์ USB Type-C ไปยังแจ็คชุดหูฟัง 3.5 mm., คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกัน และสำหรับใครที่สั่งซื้อในช่วง Early Bird ก็จะได้รับ HUAWEI Smart Keyboard แถมมาด้วยเลยค่ะ

ซึ่งน่าเสียดายที่ทางหัวเว่ยไม่ได้ให้หูฟังมาด้วย แถมยังให้อะแดปเตอร์ชาร์จไฟมาเพียง 10W ทำให้การชาร์จไฟแต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน แต่มองว่าไม่ได้เป็นปัญหามากนัก เพราะโดยการใช้ชีวิตประจำวันคนเราก็มักจะชาร์จไฟในช่วงเวลาก่อนนอนและตื่นมาใช้งานในตอนเช้าอยู่แล้ว

ดีไซน์
สำหรับดีไซน์ HUAWEI MatePad มาพร้อมหน้าจอกระจกแบบ FullViewDisplay ขนาด 10.4 นิ้ว สัดส่วน16:9:6 ด้วยขอบจอบางเพียง 7.9 มิลลิเมตร เลยทำให้ได้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงสุด 84% สามารถใช้งานได้อย่างเต็มตา กล้องหน้าถูกวางไว้บนขอบจอแนวนอน ไม่กินพื้นที่หน้าจอแสดงผลให้ขัดใจ

ตัวเครื่องทำจากวัสดุอะลูมิเนียมที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ ไม่ก้องแก้ง ขนาดพอดีมือ ใส่เคสแล้วก็ยังไม่ให้ความรู้สึกเทอะทะ เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้ในชีวิตประจำวันมาก ๆ ค่ะ ด้านหลังออกแบบอย่างเรียบง่าย มีโลโก้ของทางหัวเว่ยอยู่ตรงกลาง มุมบนขวามือวางกรอบกล้องหลังโชว์เลนส์ 2 ตัวและแฟลช ถัดมาด้านล่างเป็นเครื่องหมายรับรองการจูนเสียงโดย harman/kardon ค่ะ

ปุ่ม Power จะอยู่ทางด้านบนของตัวเครื่อง พร้อมลำโพงขนาดใหญ่ 2 ตัว และอีก 2 ตัวทางด้านล่าง โดยพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีล่าสุด HUAWEI Histen 6.1 และแน่นอนว่าปรับแต่งคุณภาพเสียงโดย harman/kardon ตามที่ได้เกริ่นไปเมื่อครู่ ซึ่งอยู่ขนาบกับพอร์ตชาร์จ Type-C

ถัดมาด้านข้างเป็น ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และช่องไมโครโฟนทั้งหมด 4 ตัวที่จะทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวน ส่วนอีกฝั่งของด้านข้างเป็นช่องใส่ถาด microSD Card ซึ่งแท็บเล็ตตัวนี้ไม่ได้รองรับซิมการ์ดนะคะ

สำหรับการออกแบบโดยรวม ถือว่าออกแบบมาได้สวยเลยทีเดียวค่ะ ด้วยตัวเครื่องที่ค่อนข้างกะทัดรัด ใหญ่กว่าขนาด A4 พับครึ่งนิดเดียว และมีน้ำหนักเพียง 450 กรัม หลังจากใส่เคสคีย์บอร์ดก็หนาเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เรียกว่าตอบโจทย์การพกพาติดตัวไปใช้งานในชีวิตประจำวันสุด ๆ

สำหรับตัวเคส HUAWEI Smart Keyboard ทำออกมาได้บางเฉียบ วัสดุเป็นผิวหยาบนิด ๆ เวลาถือไม่ทำให้หลุดมือง่าย ส่วนตัวชอบสัมผัสการพิมพ์ของคีย์บอร์ดมาก กดง่าย ไม่ต้องออกแรง ระยะห่างของแป้นกำลังดี ดีไซน์ให้ความรู้สึกพรีเมียม เป็นอุปกรณ์เสริมที่แถมมาให้แบบคุ้มเกินราคาจริง ๆ ค่ะ

การทดสอบประสิทธิภาพ
HUAWEI MatePad มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียดสูงสุด FHD 2K (2000 x 1200 พิกเซล) ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย EMUI10.1 ชิปเซ็ต Kirin 820 ขนาดเล็กเพียง 7 นาโนเมตร หน่วยความจำ 4GB และให้ความจุมามากถึง 128GB (รองรับ MicroSD สูงสุด 512 GB) และรองรับ Wifi-6 ซึ่งได้คะแนนทดสอบ ผลออกมาดังนึ้ค่ะ
ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำคะแนนได้ 382,566 คะแนน
ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็ว Storage ในการอ่านอยู่ที่ 952.82 MB/s และการเขียน 481.1 MB/s (UFS 2.1) ทำความเร็ว RAM ในการอ่านอยู่ที่ 185.73 MB/s และการเขียน 221.81 MB/s (LPDDR4X)
ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าทำได้ทีเลยทีเดียวค่ะ

หน้าจอ และอินเตอร์เฟส
ด้วยความที่เจ้า HUAWEI MatePad ทำงานบน Android 10 ที่ครอบทับด้วย EMUI10.1 ทำให้ได้หน้าตาอินเตอร์เฟสที่สวยงามสบายตา ด้วยการ์ดจอ Mali-G57 ที่ทำงานร่วมกับ GPU+Turbo ให้ความเร็วและการลื่นไหลอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี ไม่ได้ลื่นไหลเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ไม่ได้ติดขัดหรือหน่วงเกินไป มีโหมดถนอมสายตาให้หลากหลายตามการใช้งานเฉพาะ ทั้ง Dark mode (โหมดกลางคืน), Eye Comfort (โหมดถนอมสายตาโดยเฉพาะ) และ eBook mode (โหมดอ่านหนังสือ) ซึ่งตัวหน้าแสดงผลและโฮมสกรีนเองก็สามารถตั้งค่า/ปรับเปลี่ยนได้ค่อนข้างอิสระเลยค่ะ ไม่ว่าจะปรับความสว่างของแสง สีหน้าจอ หรือขนาดของไอคอนและตัวหนังสือ

เจ้าแท็บเล็ตตัวนี้ยังรองรับฟีเจอร์ HUAWEI Share เพื่อการใช้งานในโหมด Multi-Screen Collaboration เพิ่มสะดวกสบายมากขึ้น ในการแชร์หน้าจอสมาร์ตโฟนขึ้นมาปรากฎบนจอแท็บเล็ต ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายแลกเปลี่ยนไฟล์ต่าง ๆ ระหว่างสองดีไวซ์ได้อย่างไร้รอยต่อ ตามกลยุทธ์ 1+8+N ของทางหัวเว่ย

และส่วนนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นคือ Desktop mode (โหมดเดกส์ท็อป) ของทางหัวเว่ย ที่จะแปลงร่างแท็บเล็ตให้กลายเป็นแลปท๊อปขนาดย่อม ยิ่งใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดด้วยแล้ว ก็ช่วยยืดหยุ่นการทำงานได้หลากหลายและสะดวกสบายมากขึ้น สามารถหิ้วแท็บเล็ตตัวเดียวไปไหนมาไหนเพื่อทำงานแทนแลปท็อปได้เลยค่ะ

นอกจากนี้ทางหัวเว่ยยังให้ฟีเจอร์ HUAWEI APP Multiplier มาพร้อมกับตัวแท็บเล็ต ที่จะช่วยให้สามารถใช้งาน 1 แอปพลิเคชันแบบหน้าจอคู่ขนานกันได้ ช่วยให้เราอ่านข้อมูลได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอกลับไปกลับมา

การใช้งาน
แอปพลิเคชั่น และการดาวน์โหลด
ข้อกังวลหลักของคนที่วางแผนจะซื้อผลิตภัณฑ์ของทางหัวเว่ย คงไม่พ้นคำถามที่ว่า "จะใช้งานอะไรได้บ้าง เมื่อไม่มี Google Mobile Service (GMS) จากทาง Google" คำตอบก็คือ สามารถใช้งานได้แทบทุกอย่างเลยค่ะ เพราะทางหัวเว่ยได้มีการอัปเดต Security Patch ให้ผ่านทาง EMUI รวมทั้งสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ผ่านทาง AppGallery ของทางหัวเว่ย ในนาม Huawei Mobile Service (HMS) ซึ่งตอนนี้มีการอัปเดตแอปพลิเคชันหลัก ๆ ที่ใช้งานกันเป็นส่วนใหญ่ให้สามารถดาวน์โหลดกันได้เกือบทั้งหมดแล้ว และทางหัวเว่ยยืนยันว่าจะยังมีการอัปเดตต่อไปอีกเรื่อย ๆ

สำหรับแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ นอกเหนือจากที่มีอยู่ใน AppGallery ผู้ใช้งานก็สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งได้ด้วยตนเองจากผู้ให้บริการอื่น ๆ วิธีก็ง่าย ๆ เลยค่ะ เข้าเบราว์เซอร์ พิมพ์คีย์เวิร์ดแอปฯที่ต้องการ ต่อด้วยคำว่า Download จากนั้นก็กดค้นหา ก็จะมีรายชื่อขึ้นมาให้เลือกติดตั้งได้ตามสะดวก ซึ่งมองว่าไม่ได้เป็นขั้นตอนที่เข้าใจยากหรือลำบากมากนัก จากการทดลองใช้แอปพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดมาจากผู้ให้บริการอื่น พบว่าเบื้องต้นก็สามารถใช้งานได้ตามปกติค่ะ ยังไม่เจอข้อติดขัดอะไร เพียงแต่ขั้นตอนการอัปเดตแอปพลิเคชั่นอาจต้องคอยติดตั้งใหม่ในทุกครั้งเท่านั้นเอง

HUAWEI Smart Keyboard
สำหรับการใช้งาน HUAWEI MatePad ร่วมกับ HUAWEI Smart Keyboard ต้องบอกเลยว่าช่วยเสริมพลังกันดีมาก ๆ ด้วยข้อขัดใจเล็ก ๆ ของแท็บเล็ตที่ขนาดของหน้าจอทำให้ระยะของแป้นค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับการพิมพ์ การมีคีย์บอร์ดทำให้การใช้งานไหลลื่นยิ่งขึ้น ซึ่งตัว Smart Keyboard เองนอกจากจะให้สัมผัสการพิมพ์ที่ดีแล้ว ยังให้การใช้งาน Shortcut (แป้นลัด) มาอย่างหลากหลาย ช่วยลดขั้นตอนการปัดหน้าจอไปได้

ซึ่งขั้นตอนการเชื่อมต่อ Smart Keyboard ใน HUAWEI MatePad ก็ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ เริ่มจากเปิดบลูทูธบนแท็บเล็ตและตัวคีย์บอร์ด (ปุ่มเล็ก ๆ อยู่ทางด้านขวามือ) จากนั้นก็เสียบแท็บเล็ตไว้กับแท่น (ตามภาพ) จากนั้นทั้งสองอุปกรณ์ก็จะเริ่มเชื่อมต่อกันโดยอัตโนมัติ และสามารถปิดการเชื่อมต่อได้ง่าย ๆ เพียงแค่ดึงแท่นแม่เหล็กออกจากฝาพับคีย์บอร์ด สะดวกสบายและรวดเร็ว ตอบโจทย์การทำงานในสถานการณ์เร่งด่วนมาก ๆ ค่ะ

จากการทดลองใช้งาน HUAWEI Smart Keyboard ทำให้พบปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้งาน Smart Keyboard ของทางหัวเว่ยต้องพบกันทุกคน นั่นคือการพิมพ์ตัวอักษร ข และ ช ไม่ได้ ซึ่งทาง MoblieGuru เราได้หา Tips เล็ก ๆ มาเป็นทางแก้ให้กับผู้ใช้งานด้วยเช่นกันค่ะ
ก่อนอื่นเราต้องทำการติดตั้งแป้นพิมพ์ภาษาไทย ด้วยการเข้าไปที่ Setting (การตั้งค่า) > System & update (ระบบและการอัปเดต) > Language & input (ภาษาและแป้นพิมพ์) เลือกที่ Microsolf SwiftKey Keyboard จากนั้นให้เลือกที่ Languages (ภาษาต่างๆ) และเลื่อนหาภาษา Thai/ไทย เพื่อติดตั้ง

จากนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือเลือกแป้นพิมพ์ให้ตรงกับภาษา ซึ่งแป้นลัดสำหรับการเปลี่ยนภาษาคือ Ctrl+Shift ส่วนการเปลี่ยนแป้นพิมพ์คือ Alt + Spacebar ให้สังเกตสัญลักษณ์ที่ขึ้นมาระหว่างการเปลี่ยนแป้นพิมพ์ เมื่อเปลี่ยนเป็นแป้นพิมพ์ Thai/ไทย แล้ว ก็สามารถพิมพ์ตัวอักษรทุกตัวได้อย่างไม่มีติดขัดค่ะ

นอกจากคีย์บอร์ดแล้ว HUAWEI MatePad ยังรองรับปากกา M-Pencil ของทางหัวเว่ยด้วยเช่นกัน ผู้ใช้งานสามารถใช้จดบันทึก วาด ร่างภาพ ได้เช่นเดียวกับปากกาและสมุดโน้ต ขยายขอบการใช้งานให้หลากหลายขึ้นได้อีกเพียบ
การเล่นเกม และความบันเทิงต่าง ๆ
สำหรับการเล่มเกม เจ้า HUAWEI MatePad ทำได้ดีตามสเปคเลยค่ะ อาจไม่ได้ให้การแสดงผลที่ว้าวมาก แต่สามารถใช้เล่นเกมทั่วไปได้สบาย ๆ สำหรับสายเกมที่เล่นแบบหนัก ๆ จัดเต็ม น้องตัวนี้อาจยังเหมาะนะคะ

ในส่วนของการดูหนังฟังเพลง ต้องบอกว่าค่อนข้างประทับใจเลยค่ะ ด้วยอัตราส่วนจอที่กว้างและความละเอียด FHD ทำให้สามารถดูหนังดูคลิปได้แบบเต็มตา ลำโพงขนาดใหญ่ 4 ตัวที่ผ่านการจูนเสียงจาก harman/kardon ทำให้ได้ระบบเสียงเซอร์ราวด์สมจริง ช่วยเพิ่มอรรถรสในการชมคอนเทนต์ได้ดี แม้ว่าแอปพลิเคชั่นหลักอย่าง YouTube จะสามารถใช้ได้ผ่านเบราว์เซอร์เท่านั้น แต่ก็รองรับการดูแบบเต็มจอได้ ซึ่งถือว่าผ่านค่ะ นอกจากนี้หัวเว่ยเองก็มีคอนเทนต์วิดีโอและเพลงให้สามารถเข้าไปเลือกชมเลือกฟังกันได้ใน Video และ Music

นอกจากลำโพงจัดเต็ม 4 ตัวแล้ว เจ้า HUAWEI MatePad ยังให้ไมโครโฟนมา 4 ตัวเช่นกัน เพื่อทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวนรอบข้างอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่ต้องใช้แท็บเล็ตในการพูดคุยหรือประชุมออนไลน์
การถ่ายภาพและวิดีโอ

HUAWEI MatePad ให้กล้องหลังมาที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถปรับซูมได้ 10 ระดับ ถือว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับแท็บเล็ตที่ไม่ได้เน้นการถ่ายรูปเป็นหลัก โหมดกล้องที่ให้มาก็ค่อนข้างครอบคลุมสำหรับการใช้งานพื้นฐาน ทั้งโหมด PRO, PANORAMA และ BEAUTY พร้อม AI ที่เข้ามาช่วยในเรื่องการประมวลผลของภาพ ซึ่งผลลัพธ์ของภาพก็ทำออกมาได้ไม่เลวเลยค่ะ

สำหรับกล้องหน้าเองก็มีความละเอียดที่ 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra-Wide ซึ่งจะให้มุมมองกล้องที่กว้างกว่ากล้องหน้าแท็บเล็ตทั่วไป มาพร้อมโหมด BEAUTY และลูกเล่นที่จะช่วยตัดภาพพื้นหลัง ให้เราสนุกกับการถ่ายภาพเซลฟี่ได้มากขึ้น

แบตเตอรี่
เจ้า HUAWEI MatePad มากับแบตเตอรี่ขนาด 7,250 mAh ซึ่งสามารถแสตนบายได้ถึง 28 วัน จากการทดลองใช้ทั้งการทำงาน ท่องเว็บไซต์ และชมคลิปวิดีโอในหนึ่งชั่วโมง แบตเตอรี่ลดลงไปเพียงเล็กน้อย จัดว่าแบตฯอึดอยู่พอสมควรค่ะ และด้วยปริมาณแบตเตอรี่ขนาดนี้ สามารถใช้งานได้สบาย ๆ ตลอดทั้งวันแน่ ๆ และถึงแม้จะไม่ได้ให้อะแดปเตอร์ชาร์จไวมาด้วย แต่เจ้าตัวนี้ก็ไม่ได้ใช้เวลาในการชาร์จนานเลยค่ะ แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เต็มอิ่มพร้อมใช้งานได้อีกครั้งแล้ว

สรุปภาพรวม
HUAWEI MatePad เป็นแท็บเล็ตที่ทำให้ว้าวได้มากกว่าที่คิดค่ะ ด้วยการรวมเอาฟีเจอร์เด่น ๆ ของทางหัวเว่ยที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในเรื่องของการทำงานและการเรียนรู้มาไว้ครบถ้วน ทำให้เป็นแท็บเล็ตรุ่นเล็กที่ช่วยเอื้อการทำงานให้เราได้ไม่แพ้กับรุ่นใหญ่ ๆ เลย การแสดงผลไม่ได้ลื่นปรื้ดมากแต่ก็ไม่ได้ติดขัดให้เสียจังหวะ การรองรับแอปพลิเคชั่นและการทำงานโดยไม่มี GMS ไม่เป็นปัญหาเลยค่ะ เพราะทางหัวเว่ยได้พัฒนา Huawei Mobile Service (HMS) มาทดแทนในส่วนนี้ได้ดี ซึ่งเราอาจต้องใช้เวลาปรับตัวเพื่อให้ชินกับมันเล็กน้อย แต่เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ แล้วก็ไม่รู้สึกติดขัดอะไร เพียงแต่ต้องลองเปิดใจค่ะ ในส่วนของการทำงานร่วมกับ HUAWEI Smart Keyboard เป็นการเสริมแรงที่ดีมาก เพราะคีย์บอร์ดได้เข้ามาลดข้อจำกัดของการทำงานลงไปได้เยอะ ซึ่งส่วนตัวมองว่าหากเน้นการทำงานหรือการเรียนแบบทั่วไป ไม่ได้ต้องการวาดภาพหรือจดโน้ต การมีคีย์บอร์ดอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งาน ส่วนของการรับชมความบันเทิงก็ทำได้ดีทั้งการแสดงผลของภาพและเสียง เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่คุ้มมาก ๆ ในราคาเพียง 9,990 บาทค่ะ


โปรโมชั่นแท็บเล็ต HUAWEI MatePad 10.4" แท็บเล็ตขุมพลังใหม่ ตอบโจทย์การใช้งานทุกมิติ  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/tablet/news/
ReplyReply Reply with quoteQuote
10  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / เมนูอาหารยอดฮิตสำหรับงานเลี้ยง จัดเลี&# on: April 08, 2024, 09:57:03 am
การจัดงานเลี้ยงนอกสถานที่ สิ่งสำคัญในลำดับแรกคือเรื่องของอาหาร ในงานทุกงาน นอกจากการจัดงานที่ดูสวยงาม และมีสีสันตามรูปแบบของงานแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือในเรื่องของอาหารที่จะต้องนำมาเสิร์ฟในทุกโต๊ะของแขกผู้มาร่วมงาน สำหรับเมนูยอดฮิต หรือเมนูที่งานเลี้ยงทุกที่จะต้องมี มีดังนี้ค่ะ


1.เมนูออเดิร์ฟ หรือ เมนูทานเล่น

เมนูที่ว่านี้ อาจจะเป็นในส่วนของ ถั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เต้าหู้ปลา ลูกชิ้นทอด เมนูทอดต่างๆ ไข่เยี่ยวม้า ขิงดอง เมนูปิ้ง ย่าง เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มเครื่องเคียงต่างๆ

2.เมนูกระเพาะปลา หรือกระเพาะปลาน้ำแดง

3.เมนูปลา อาจจะเป็นปลาทรงเครื่อง ปลานึ่งมะนาว

4.เมนูกุ้งอบวุ้นเส้น

5.เมนูผัดห้าเซียน

6.เมนูต้มยำ หรือ ยำต่างๆ

7.เมนูขาหมูหมั่นโถ หรือขาหมูพะโล้

8.เมนูข้าวผัด อาจจะเป็นข้าวผัดปู หรือข้าวผัดไข่

9.เมนูตบท้าย ขนมหวาน อาจจะเป็น แปะก้วยมะพร้าวอ่อน เงาะกระป่อง ลูกตาลลอยแก้ว

ทั้งนี้ ทางผู้ว่าจ้างสามารถที่จะติดต่อประสานงานเพิ่มเติม ในส่วนของการเพิ่ม หรือลดเมนูอาหารกับผู้จัดได้ค่ะ ซึ่งก็จะเป็นกรณีไป อาจจะในเรื่องของเงินทุน หรือตามความเหมาะสมของงานเลี้ยงต่างๆ



เมนูอาหารยอดฮิตสำหรับงานเลี้ยง จัดเลี้ยงนอกสถานที่  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/
ReplyReply Reply with quoteQuote
11  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / อาหารสายยาง อาหารปั่นผสมสามารถให้พร้อ&# on: April 08, 2024, 03:47:05 am
อาหารสายยาง อารหารปั่นผสม เป็น อาหารสุขภาพ ที่ได้รับการยอมรับให้ใช้รักษาผุ้ป่วยที่ไม่สามารถกลืนอาหารเองได้ เพื่อป้องกันการขาดสารอาหารของผู้ป่วย การได้รับสารอาหารและสารน้ำมีผลต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งเป็นความจำเป็นสำคัญของการมีชีวิตอยู่ได้ โดยปริมาณและคุณค่าของอาหารมีผลต่อร่างกายและจิตใจ

การได้รับอาหารน้อยหรือไม่มีประโยชน์ และมีสุขลักษณะการรับประทานอาหารที่ไม่ดีนั้นเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการติดโรคต่างๆ รวมทั้งส่งผลให้การเจ็บป่วยเรื้อรังนั้นมีอาการที่แย่ลง หากผู้ป่วยขาดสารอาหารหรือขาดยา ก้อาจจะทำให้อาการป่วยทรุดลงได้ หลายคนสงสัยว่า ผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้นั้น มีการรับประทานยาอย่างไร

สำหรับการรับประทานยาของผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานยาเองได้ ก็อาจจะมีการฉีดเข้าร่างกาย หรืออาจจะให้พร้อมกับอาหารปั่นผสมที่ให้ทางสายยาง เพราะการให้อาหารทางสายจะส่งตรงเข้ากระเพาะอาหารโดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องกลืนอาหารเอง อาจจะให้ยาเข้าไปพร้อมกับอาหารปั่นผสม เพื่อให้ผู้ป่วยรับยาไปในตัวได้ แต่การให้ยาผู้ป่วยพร้อมกับอาหารปั่นผสมต้องปรึกษากับแพทย์ก่อน เนื่องจากอาจจะมีผลข้างเคียงหรือตัวยาที่ต้องรับประทานตามเวลา แต่อย่างไรก็ตาม การให้ยาพร้อมกับอาหารปั่นผสม สามารถทำได้ แต่ต้องที่ความรู้ในเรื่องของการให้ยาและอาหารปั่นผสมไปพร้อมกัน เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย

นอกจากนี้ การให้ยาหลังอาหารที่เตรียมไว้ ลงไปแล้วควรเติมน้ำตาม 50 – 100 ซีซี เพื่อล้างอาหารและยา เพื่อผู้ป่วยจะได้ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่นโรคไต เนื่องจากได้รับยา และทำให้ไตทำงานหนัก ทั้งนี้ผู้ดูแลควรสังเกตอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากเกิดความผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ และรีบแก้ไขโดยด่วน อย่างไรก็ตามต้องหมั่นตรวจการขับถ่ายของผุ้ป่วยด้วยว่ามีสีที่ผิดปกติหรือไม่ เพราะบางครั้งอาจจะทำให้เกิดภาวะอาหารที่ไม่สามารถเข้ากับผุ้ป่วยได้ หรืออาหารที่ไม่สะอาดและปลดภัยนั่นเอง



อาหารสายยาง อาหารปั่นผสมสามารถให้พร้อมกับยาได้หรือไม่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/อาหารทางสายยาง/
ReplyReply Reply with quoteQuote
12  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / ปาร์ตีหนักก็พักก่อน รวมวิธีแก้แฮงค์ให&# on: April 07, 2024, 02:48:01 am
รักใครให้ดูแลเทคแคร์นะคะ ตอน ปาร์ตีหนักก็พักก่อน รวมวิธีแก้แฮงค์ให้พร้อมไปทำอย่างสดใส

สวัสดีวันจันทร์แรกของปีนะคะทุกคน สำหรับเมื่อคืนถ้าใครมีปาร์ตี้หนักส่งท้ายก็เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่แห่งการทำงาน รองรับเลยว่าตอนนี้คุณอาจจะยังแฮงค์อยู่ วันนี้เราก็รวมสารพัดวิธีแก้แฮงค์ให้คุณได้พร้อมเริ่มทำงานอย่างสดใสมาฝากกันค่ะ


อเมริกาโน่

อเมริกาโน่ร้อนสักแก้ว ช่วยแก้แฮงค์ให้ดีขึ้นได้มาก คาเฟอีนในกาแฟจะช่วยกระตุ้นคุณให้ฟื้นจากอาการมึนหัว และขับปัสสาวะ ทำให้แอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย


น้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น

ช่วยแก้อาการเมาค้างได้เช่นกัน และเป็นที่นิยมของคนทั่วไป แถมยังช่วยลดปริมาณสารตกค้างในตับได้อีกด้วย


น้ำขิง

น้ำขิงนั้นขึ้นชื่อเรื่องมีสรรพคุณในการแก้อาการวิงเวียงศีรษะและอาการคลื่นไส้ได้ดีค่ะ ลองชงน้ำขิงหรือจะใช้แบบซองสำเร็จ ดื่มตอนแฮงค์ๆ ก็จะช่วยลดอาการเวียนหัวได้ นอกจากนี้น้ำขิงยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ช่วยขับปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยขับเอาแอลกอฮอล์ออกมาได้ดี


ยาแก้ปวด

เมื่อเกิดอาการแฮงก์คนส่วนใหญ่มักจะปวดหัว ทางแก้ที่รวดเร็วทันใจคือหายาแก้ปวดมารับประทาน เช่น หลังจากดื่มสังสรรค์เสร็จเรียบร้อยก็กินยาแก้ปวดสักเม็ดดักไว้ก่อนที่จะปวดหัวในวันรุ่งขึ้น แล้วนอนพักผ่อนก็จะช่วยได้มาก แต่อย่ากินเกินขนาดเด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว


กล้วยหอม

ช่วยเยียวยาอาการเมาค้างได้ดีทีเดียว เนื่องจากโพแทสเซียมที่อยู่ในกล้วยช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำและช่วยเคลือบกระเพาะไปในตัว ทำให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์น้อยลงและขับออกได้เร็วขึ้น


น้ำเกลือแร่

หลังจากการดื่มอย่างหนักหน่วงเรามักไม่รู้สึกว่าร่างกายสูญเสียน้ำไปเยอะ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้รู้สึกเช่นนั้น แต่การที่ร่างกายต้องขับแอลกอฮอล์ออกไปก็ต้องใช้น้ำจำนวนมากกว่าที่ได้รับเข้าไป ทำให้ร่างกายขาดน้ำแน่ๆ เกลือแร่ชนิดละลายน้ำที่มีขายตามร้านขายยาจะช่วยฟื้นฟูอาการขาดน้ำ แต่ควรจิบทั้งวันเพื่อเติมน้ำให้ร่างกายอย่างสม่ำเสมอ และทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น


อาหารเช้าประเภทน้ำซุป

แนะนำให้กินอาหารประเภทโปรตีน อย่างไข่ต้ม หรืออาหารที่ย่อยง่าย อย่างโจ๊ก ข้าวต้ม น้ำซุป ก๋วยเตี๋ยว จะช่วยบรรเทาอาการเมาค้างได้ดีค่ะ การได้ซดน้ำซุปร้อนๆ จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้นและยังช่วยลดอาการขาดน้ำได้ด้วยค่ะ


นมช็อคโกแลต

ช่วยป้องกันอาการเมาค้างได้อย่างดี แถมไม่ทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างแรงเมื่อตื่นขึ้นมาอีกด้วย


เครื่องดื่มผสมวิตามิน

ส่วนผสมของวิตามินบี และวิตามินซี จะเป็นตัวช่วยอย่างดี หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ หรือร้านขายยาทั่วไป เพราะวิตามินดังกล่าวสามารถช่วยลดอาการเมาค้างได้มาก และควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ ควบคู่ไปด้วย เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไปหลังจากการดื่มหนัก

ใครที่ยังแฮงค์อยู่รีบไปหาอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้มาช่วยได้เลยนะคะ วันนี้จะได้พร้อมทำงานอย่างสดใสไม่เมาค้าง ฮ่าๆ



ปาร์ตีหนักก็พักก่อน รวมวิธีแก้แฮงค์ให้พร้อมไปทำอย่างสดใส อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/
ReplyReply Reply with quoteQuote
13  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / วิธีตรวจเช็คราคา รถรับจ้างขนของเชียงใ&# on: April 05, 2024, 12:17:13 pm
เข้าใจราคาพื้นฐาน:
เพื่อเริ่มต้นกระบวนการตรวจเช็คราคา คุณควรทำความเข้าใจถึงข้อมูลราคาพื้นฐานของบริการขนส่งจาก ขนส่ง ในปทุมธานีฯ นอกจากนี้, คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์หรือติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ เพื่อความทันเวลาและประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย.
รถกระบะรับจ้างจังหวัดปทุมธานี รถ6ล้อรับจ้างราคาถูก มีขั้นตอนดังนี้:

ใช้แอปพลิเคชันรถหรือบริการรับจ้างออนไลน์: ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันหลายรูปแบบที่ให้บริการรถหรือ รถกระบะรับจ้างปทุมธานี รถ6ล้อรับจ้างปทุมธานี ที่มีให้บริการในประเทศไทย ลองเปรียบเทียบราคาและบริการของแต่ละแอปเพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ.

รถกระบะรับจ้างราคาถูก
โทรหาคนขับรถ: หากคุณไม่สะดวกใช้แอปพลิเคชัน ลองโทรหาคนขับรถหรือสอบถามที่ท่านรู้จัก บางครั้งคนขับรถอาจมีอะไรที่พร้อมจะปรับตามสภาพการตลาดหรือการเจรจากับลูกค้าโดยตรง.

ตรวจสอบกลุ่มหรือเว็บไซต์ออนไลน์ท้องถิ่น: มีกลุ่มหรือเว็บไซต์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการรถรับจ้างในพื้นที่ปทุมธานีหรือประเทศไทยทั้งหลาย ลองเข้าร่วมหรือสืบค้นข้อมูลจากเหล่านี้เพื่อดูว่ามีคนขับรถที่พร้อมบริการในพื้นที่ของคุณหรือไม่.
เปรียบเทียบราคา: เมื่อคุณได้รับตัวเลือกหลายรายการ คุณควรเปรียบเทียบราคาและบริการที่ได้รับ รวมถึงความนิยมและความเสถียรของบริการนั้น ๆ.
สอบถามเกี่ยวกับโปรโมชั่นหรือส่วนลด: บางครั้งคนขับรถหรือบริการรับจ้างอาจมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดพิเศษ ๆ สำหรับลูกค้า ลองสอบถามเพื่อดูว่ามีโปรโมชั่นใดที่คุณสามารถใช้ได้.

การเลือกใช้บริการ รถรับจ้างปทุมธานี รถกระบะรับจ้างปทุมธานี รถ6ล้อรับจ้างปทุมธานี ในราคาที่ถูกต้องและคุ้มค่ามักขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายและความต้องการของคุณ เชื่อมั่นว่าคุณได้ทำการเปรียบเทียบและสอบถามข้อมูลอย่างเพียงพอก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการนั้น ๆ และอย่าลืมตรวจสอบรีวิวหรือความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการก่อนที่จะตัดสินใจ definitiva


คำนวณราคาตามระยะทาง:
ในขั้นตอนถัดไป, คุณควรทราบถึงวิธีการคำนวณราคาตามระยะทางของ ขนส่ง. ของ รถรับจ้างขนของปทุมธานี ตรวจสอบตารางราคาที่กำหนดไว้, และเข้าใจถึงเกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดราคา ซึ่งอาจจะคิดตามระยะทาง, น้ำหนัก, หรือปัจจัยอื่นๆ.หรือมีราคาเริ่มต้นที่ 500 บาท เป็นต้น

คำนวณค่าบริการ รถกระบะรับจ้าง 4 ล้อปทุมธานี
0-20 กม. ราคากิโลเมตรละ 35 บาท
20-50 กม. ราคากิโลเมตรละ 28-35 บาท
50-100 กม. ราคากิโลเมตรละ 28-30 บาท
101-200 กม. ราคากิโลเมตรละ 18-20 บาท
201-250 กม. ราคากิโลเมตรละ 15-25 บาท
251-300 กม. ราคากิโลเมตรละ 13-15 บาท
301 ขึ้นไป กม. ราคากิโลเมตรละ 13-15 บาท

คำนวณค่าบริการ รถ6ล้อรับจ้างปทุมธานี
0-20 กม. ราคาประมาณ 2000-3000 บาท
21-50 กม. ราคาประมาณ 3000-4000 บาท
51-100 กม. ราคาประมาณ 4000-4800 บาท
101-200 กม. ราคาประมาณ 4800-6000 บาท
201-300 กม. ราคาประมาณ 6000-7500 บาท
301 ขึ้นไป กม. ราคาประมาณ 7500-xxxx บาท

รถรับจ้างขนของราคาถูก
ตรวจสอบประเภทของรถ:
ทราบถึงประเภทของ รถรับจ้างขนของจังหวัดปทุมธานี ที่ขนส่งมีให้บริการ โดยปกติแล้วมีทั้ง รถกระบะรับจ้างปทุมธานี , รถกระบะรับจ้างตู้ทึบ, หรือ รถ6ล้อรับจ้าง รถบรรทุกใหญ่ และเลือกประเภทที่เหมาะสมกับปริมาณและน้ำหนักของสินค้า.
จ้างรถขนของไปต่างจังหวัด
ทราบเกณฑ์การเรียกเก็บค่าบริการ:
ในการตรวจเช็คราคา, คุณควรตรวจสอบเกณฑ์ที่อาจทำให้มีค่าบริการเพิ่มเติม เช่น ค่าบริการพิเศษในบางสถานการณ์ เข้าใจถึงเกณฑ์นี้จะช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่าย.
ตรวจสอบนโยบายการชำระเงิน:
ตรวจสอบนโยบายการชำระเงินของขนส่ง ว่ามีวิธีการชำระเงินใดบ้าง และเลือกวิธีที่สะดวกต่อคุณ. รู้ถึงนโยบายการชำระเงินจะช่วยลดความไม่แน่ใจในขั้นตอนการให้บริการ.
สอบถามเรื่องประกันสินค้า
ถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับนโยบายประกันสินค้าที่อาจถูกควบคุมในการขนส่ง. ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประกันความปลอดภัยของสินค้า, และนโยบายการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย.
รถรับจ้างขนของ
ติดตามสถานะการขนส่ง:
ทราบถึงวิธีติดตามสถานะการขนส่งของสินค้า. ท่านคงต้องการความสะดวกและความมั่นใจในการติดตามว่าสินค้าของคุณกำลังอยู่ที่ไหน.
 
สอบถามโปรโมชั่นหรือส่วนลด:
ไม่ลืมถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับโปรโมชั่นหรือส่วนลดที่อาจจะนำเสนอให้กับคุณ. บางครั้ง, บริษัทขนส่งอาจมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ติดต่อถามเพิ่มเติม


วิธีตรวจเช็คราคา รถรับจ้างขนของเชียงใหม่ รถรับจ้างขนของปทุมธานี กระบะ 6ล้อ  อ่านบทความเพิ่มเติมคลฺิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/105
ReplyReply Reply with quoteQuote
14  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / รู้หรือไม่? ไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง เป็น on: April 04, 2024, 11:52:49 am
ทราบได้ อย่างไรว่าเป็นโรค ไวรัสตับอักเสบบี และซี

การวินิจฉัยโรคในผู้ป่วยที่สงสัยว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือสงสัยว่าเป็นพาหะของโรค ทำได้โดยการตรวจเลือดหาแอนติเจนของเชื้อที่เรียกว่า เอชบีเอสแอนติเจน (HBsAg หรือ hepatitis B surface antigen) นอกจากนี้ยังสามารถตรวจ อี แอนติเจน (HBeAg) แสดงว่าเชื้อไวรัสบักำลังแบ่งตัว ซึ่งในภาวะนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ผู้ป่วยจะแพร่เชื้อไวรัสบีติดต่อผู้อื่นได้หรือ ตรวจหาปริมาณของเชื้อไวรัสตับ (HBV-DNA) จากเลือดโดยตรง นอกจากนี้ผู้ใดเคยติดเชื้อมาในอดีตและมีภูมิคุ้มกันต่อโรคจะทราบได้โดยการตรวจหาแอนติบอดีต่อเชื้อเช่น anti-HBs

ส่วนการวินิจฉัยโรคในผู้ป่วยที่สางสัยว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี หรือสงสัยว่าเป็นพาหะทำได้โดยการตรวจเลือดหาแอนติบอดีต่อเชื้อไวรัสซี (anti-HCV) หรือตรวจหาปริมาณของเชื้อไวรัสซี (HCV-RNA) โดยวิธี PCR


การดูแลรักษาและป้องกันการติดต่อโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญระดับโลก โดยเฉพาะตับอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบีและซี เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้บางคนอาจจะดำเนินโรคเป็นตับแข็งและมะเร็งตับในที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ ประมาณร้อยละ 5 ของประชากรโลกหรือ 3.5 ล้านคน ที่ติดเชื่อไวรัสตับอักเสบบีและมีผู้ที่เป็นพาหะเชื้อไวรัสตับอักเสบบีมากกว่า 370 ล้านคนทั่วโลกและเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสนี้มากกว่า 250,000 คนต่อปี และที่สำคัญประมาณร้อยละ 70 ของผู้ที่เป็นพาหะของโรคไวรัสตับอักเสบบีเป็นชาวเอเชีย สำหรับประเทศไทยนับเป็นแหล่งที่มีโรคตับอักเสบบีมากประเทศหนึ่งของโลก มีประชากรที่เป็นพาหะของเชื้อไวรัสตับอักเสบบีถึงร้อยละ 5-10 หรือประมาณ 5-6 ล้านคนที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตับอักเสบเฉียบพลันร้อยละ 30-40 และเป็นสาเหตุของโรคตับอักเสบชนิดเรื้อรังถึงร้อยละ 60-70 ของผู้ป่วยดังนั้นโรคไวรัสตับอักเสบบีจึงนับว่ามีความสำคัญมากสำหรับประเทศไทย แต่ในปัจจุบันหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีให้เด็กแรกเกิดทุกคน ทำให้อุบัติการณ์ในคนไทยลดลงเหลือประมาณร้อยละ 3-5

ในประเทศไทยโรคตับอักเสบซีชนิดเรื้อรังและพาหะของเชื้อไวรัส มีประมาณร้อยละ 1-5 หรือประมาณ 6 แสนถึง 3 ล้านคน นับเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสตับอักเสบซี และที่สำคัญในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบซี

รู้หรือไม่? ไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง เป็นสาเหตุสำคัญ ของการเกิดตับแข็งและมะเร็งตับ  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/177
ReplyReply Reply with quoteQuote
15  ซื้อ - ขาย / ห้องแสดงสินค้า / การจัดฟันเด็ก เป็นประโยชน์ต่อขากรรไกร&# on: April 03, 2024, 05:42:39 am
ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน สำหรับเด็กนั้น เป็นเรื่องของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องดูแลเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ พ่อแม่ควรปลูกฝังให้เด็กรู้จักวิธีการแปรงฟันอย่างถูกต้อง เพื่อให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะหมั่นสังเกตพฤติกรรมของเด็กด้วย เพราะพฤติกรรมของเด็กนั้น ล้วนแต่ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟัน รวมไปถึงขากรรไกรของเด็ก ซึ่งเป็นรากฐานของฟันที่จะขึ้นมาในอนาคต เพราะเด็กบางคนอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับขากรรไกร ซึ่งก็เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพันธุกรรม หรือพฤติกรรมในวัยเด็ก


ซึ่งการจัดฟันในเด็ ก็สามารถแก้ไขในเรื่องดังกล่าวได้ บางกรณีเด็กอาจจะมีฟันสบไขว้ อาจทำให้ขากรรไกรเจริญเติบโตไม่สมดุลกัน และมีปัญหาในการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรีบแก้ไข เพราะการบดเคี้ยวอาหารไม่สะดวก อาจจะส่งผลต่อร่างกายของเด็กได้ สำหรับวันนี้ทางคลินิก เราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ที่เป็นประโยชน์ต่อขากรรไกรของเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอจจะยังไม่ทราบว่า การจัดฟันในเด็กนั้น สามารถส่งเสริมให้เด็กมีขากรรไกรที่สมดุลกัน และเป็นประโยชน์ต่อกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ทำให้ใบหน้าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมด้วย


เราต้องอธิบายก่อนว่า การจัดฟันในเด็กนั้น เป็นการใช้ประโยชน์จากขากรรไกรของเด็กที่กำลังอยู่ในช่วงของการเจริญเติบโต นอกจากนี้ ยังอาจจะสามารถแก้ไขส่วนโค้งของแนวฟันและขากรรไกรที่อยู่ในตำแหน่งไม่เหมาะสมได้อีกด้วย สำหรับการจัดฟันในเด็ก เป็นการแก้ไขปัญหาฟันให้บุตรหลานของท่านมีฟันที่สวยงาม ส่งเสริมในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน และการจัดฟันในเด็ก ยังสามารถแก้ไขได้เมื่อปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากทันตแพทย์ตรวจพบปัญหาฟันแต่เนิ่นๆ ก็จะสามารถแก้ไขได้ทันที โดยปัญหาฟันบางอย่างอาจเกิดจากการเจริญเติบโตของขากรรไกรที่ผิดปกติ อุปนิสัยการกิน การกลืน และการใช้ฟันผิดหน้าที่ของเด็ก ทันตแพทย์จะสามารถแก้ไขปัญหาฟัน


ทั้งนี้หากปล่อยให้ปัญหาดังกล่าว ดำเนินต่อไป จนเด็กคนนั้นโตขึ้น การแก้ไขปัญหาจะไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เหมือนตอนเด็กๆ อาจต้องมีการผ่าตัด หรือแก้ไขปัญหาข้อต่อขากรรไกรที่เสื่อมสภาพลงด้วย ดังนั้น การจัดฟันในเด็ก จึงมีประโยชน์ต่อขากรรไกรของเด็กอย่างมากมายเลยทีเดียว นี่คืออีกหนึ่สาเหตุที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจฟันเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อตรวจความผิดปกติ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องและตรงจุด เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานๆ อาจจะทำให้ปัญหาลุกลามไปจนถึงขั้นสร้างความเสียหายแก่ฟันบริเวณอื่นๆได้ การแก้ไขปัญหาในเด็ก จะช่วยให้เด็กจะมีการเจริญเติบโตที่เป็นปกติได้ ทำให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดี เสริมสร้างพัฒนาการในเด็กได้อย่างดี 


ทำให้เด็กได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันมาเป้นอุปสรรค ในทางตรงข้าม ถ้าหากพ่อแม่ผู้ปกครองปล่อยปัญหาฟันของเด็กนานว้ การแก้ไขจะทำได้ยากมากยิ่งขึ้น และอาจจะสร้างความเสียหายต่อร่างกายเด็กได้ โดยเฉพาะขากรรไกร ถ้าหากเด็กมีขากรรไกรล่างที่เล็ก อาจมีผลให้ถอยหลังไปกดปิดการหายใจของเด็กทำให้หายใจไม่สะดวกได้ ส่งผลทำให้เด็กมีมีปัญหาต่อระบบการเติบโตของร่างกาย ลักษณะฟันยื่น ฟันเหยิน ก็ทำให้โดนเพื่อนล้อจนทำให้เสียความมั่นใจได้

 
หากใครสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันทุกรูปแบบ รวมไปถึงมีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมมาอย่างยาวนาน จึงทำให้มั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง มีโครงสร้างของใบหน้าที่ปกติ ทำให้เด็กมีความมั่นใจ และมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น เพราะทางเราใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก อยากให้เด็กได้มีฟันที่แข็งแรง เพื่อที่จะได้มีพัฒนาการที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย



การจัดฟันเด็ก เป็นประโยชน์ต่อขากรรไกรของเด็กอย่างไร  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/
ReplyReply Reply with quoteQuote
Pages: [1] 2 3 ... 213
+-Recent Topics
Powered by EzPortal
Bookmark this site! | Upgrade This Forum
SMF For Free - Create your own Forum


Powered by SMF | SMF © 2016, Simple Machines
Privacy Policy