DNK Orchid Online

กล้วยไม้สกุลหวาย(Dendrobium)
ข้อมูลจาก : http://www.panmai.com/Orchid/Den/den.shtml

กล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium) เป็นกล้วยไม้สกุลใหญ่ที่สุด มีการแพร่กระจายพันธุ์ออกไปในบริเวณกว้างทั้งในทวีปเอเชียและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก นักพฤกษศาสตร์ได้จำแนกออกเป็นหมู่ประมาณ 20 หมู่ และรวบรวมกล้วยไม้ชนิดนี้ที่ค้นพบแล้วได้ประมาณ 1,000 ชนิดพันธุ์
กล้วยไม้สกุลหวาย มีลักษณะการเจริญเติบโตแบบซิมโพเดียล คือ มีลำลูกกล้วย เมื่อลำต้นเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะแตกหน่อเป็นลำต้นใหม่และเป็นกอ ใบแข็งหนาสีเขียว ดอกมีลักษณะทั่วไปของกลีบชั้นนอกคู่บนและคู่ล่างขนาดยาวพอๆ กันโดยกลีบชั้นนอกบนจะอยู่อย่างอิสระเดี่ยวๆ ส่วนกลีบชั้นนอกคู่ล่างจะมีส่วนโคน ซึ่งมีลักษณะยื่นออกไปทางด้านหลังของส่วนล่างของดอกประสานเชื่อมติดกับฐานหรือสันหลังของเส้าเกสร และส่วนโคนของกลีบชั้นนอกคู่ล่างและส่วนฐานของเส้าเกสรซึ่งประกอบกันจะปูดออกมา มีลักษณะคล้ายเดือยที่เรียกว่า “เดือยดอก” สำหรับกลีบชั้นในทั้งสองกลีบมีลักษณะต่างๆ กันแล้วแต่ชนิดพันธุ์ของกล้วยไม้นั้นๆ
กล้วยไม้หวายป่าของไทยมีสีสวยงาม ก้านช่อสั้น สำหรับกล้วยไม้สกุลหวายที่เป็นกล้วยไม้อยู่ในป่าของไทย มีหลายชนิดอันได้แก่พวก “เอื้อง” ต่างๆ เช่น  

เอื้องผึ้ง

(http://uppic.net/full/68883253570c944eda68535f82c1fd26)
เอื้องผึ้ง(Den. aggregatum) เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยป้อมสั้นและเบียดกันแน่น ลักษณะใบแข็งหนาสีเขียวจัด ออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ก้านช่อดอกอ่อนโค้งลงมา ช่อหนึ่งมีมากกว่า 20 ดอก พื้นดอกสีเหลืองอ่อน ปากสีเหลืองเข้ม ขนาดดอกโตประมาณ 3 เซนติเมตร พบมากทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้

เอื้องม่อนไข่, เอื้องม่อนไข่ใบมน

(http://uppic.net/full/110bd1e1fb76155b3ca834469c5e5b39)
เอื้องม่อนไข่, เอื้องม่อนไข่ใบมน(Den. thyrsiflorum)
เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมค่อนข้างกลมหรือแบนโคนเล็กและใหญ่ด้านบน สีเขียว ลำลูกกล้วยลำหนึ่งๆ มีใบประมาณ 3–4 ใบ ลักษณะใบแหลมยาวประมาณ 10–18 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อ ช่อดอกห้อยเป็นพวงยาว ดอกแน่น กลีบดอกสีขาวกางผายออก โคนกลีบปากกระดกม้วนขึ้น ปลายแหลม ม้วนขึ้นสีเหลือง ภายในมีขนแต่ริมสันปากไม่มีขน ขนาดดอกโตประมาณ 2-4 เซนติเมตร บานพร้อมกันทั้งช่อและบานนานประมาณ 1 สัปดาห์ ออกดอกเดือนมกราคมถึงเมษายน พบมากตามป่าดิบที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรขึ้นไป ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เหลืองจันทบูร

(http://uppic.net/full/94192e57e02b695bd731cbbaac3ff6a3)
เหลืองจันทบูร(Den. friedericksianum) เป็นกล้วยไม้ที่มีถิ่นกำเนิดแถบจังหวัดจันทบุรี เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยลักษณะเป็นโคนเล็กแล้วค่อยโป่งไปทางตอนปลายขนาดลำยาวมาก บางต้นยาวถึง 75 เซนติเมตร เมื่อลำแก่จะเป็นสีเหลืองโดยด้านข้างของลำจะมีใบอยู่ทั้งสองข้าง ออกดอกในเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน ช่อดอกออกตามข้อของลำ ออกดอกเป็นช่อๆ ละ 2–4 ดอก กลีบดอกเป็นมัน รอบแรกดอกจะเป็นสีเหลืองอ่อนแล้วจะค่อยๆ เข้มขึ้นจนเป็นสีจำปา ปากสีเข้มกว่ากลีบ ในคอมีสีแต้มเป็นสีเลือดหมู 2 แต้ม ขนาดดอกโตประมาณ 5 เซนติเมตร

พวงหยก หรือ หวายปม

(http://uppic.net/full/e49298a9eaa91633ad7ad9629a5a27b9)
พวงหยก หรือ หวายปม(Den. findlayanum) เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยสีเขียวเหลือง ยาวประมาณ 30–70 เซนติเมตร และโป่งเป็นข้อๆ ลักษณะใบยาวรี เมื่อลำแก่จะทิ้งใบ ออกดอกตามข้อๆ ละประมาณ 2-4 ดอก กลีบดอกสีม่วงอ่อนโคนกลีบสีขาว ปากสีเหลืองเข้ม ขอบปลายปากเป็นรูปหัวใจ ขนาดดอกโตประมาณ 4–6 เซนติเมตร ช่วงออกดอกมักผลัดใบเกือบทั้งหมด ออกดอกช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม พบที่เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และลำปาง

เอื้องช้างน้าว หรือ เอื้องคำตาควาย

(http://uppic.net/full/02ac9e2565d50d2395521037a82bed47)
เอื้องช้างน้าว หรือ เอื้องคำตาควาย(Den. pulchellum) เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยลักษณะกลม ต้นอ่อนเป็นเส้นสีม่วงลักษณะใบรูปไข่ยาวประมาณ 10–15 เซนติเมตร เมื่อลำแก่แล้วจะทิ้งใบ แตกช่อห้อยที่ปลายลำ ออกดอกในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ช่อหนึ่งมี 5–10 ดอก กลีบดอกเป็นสีเหลืองอ่อนมีเส้นเหลืองชมพู ปากรูปไข่กลมแบะแอ่นลงมีแต้มสีเลือดหมู 2 แต้ม กลีบนอกเป็นรูปใบ ภายในกลีบเป็นรูปไข่ ขนาดดอกโตประมาณ 5–7 เซนติเมตร พบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคใต้

เอื้องมัจฉาณุ

(http://uppic.net/full/22f12fb327d00b62290b8682f6011a8f)
เอื้องมัจฉาณุ(Den. farmeri) เป็นกล้วยไม้ที่ลำลูกกล้วยลักษณะเป็นพู ตอนบนใหญ่ตอนล่างเล็กรูปสี่เหลี่ยมยาวประมาณ 20–30 เซนติเมตร ลำลูกกล้วยแต่ละลำมีใบ 3–4 ใบ ลักษณะใบเป็นรูปไข่ยาวประมาณ 10–15 เซนติเมตร ออกดอกในเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ดอกเป็นช่อห้อยยาวประมาณ 15–25 เซนติเมตร ช่อหนึ่งมีหลายดอก ก้านช่อดอกยาว ดอกหลวม ทั้งกลีบดอกนอกและในมีสีม่วง ชมพู หรือขาว ปากสีเหลืองมีขนเป็นกำมะหยี่ ขนาดดอกโตประมาณ 2-4 เซนติเมตร พบมากทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้

เอื้องเงิน

(http://uppic.net/full/8019ecb6e12c713cfe88d561c974942d)
เอื้องเงิน(Den. draconis) มีลักษณะลำต้นคล้ายกับเอื้องเงินหลวง แต่จะมีลำและใบสั้นกว่าก้านช่อสั้น มีดอกประมาณ 2-5 ดอก ดอกขนาด 8-9 เซนติเมตร กลีบขาว ปากสีส้มอมแดง ออกดอกเดือนมีนาคมถึงเมษายน พบมากที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก


เอื้องเงินหลวง

(http://uppic.net/full/2cae8e366860a5d82a2f00f68af773a2)
เอื้องเงินหลวง(Den. formosum) เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยตั้งตรง กลมค่อนข้างอ้วน ความยาวประมาณ 30–50 เซนติเมตร ที่กาบใบมีขนสีดำลักษณะใบรูปไข่ยาวรี ยาวประมาณ 10–15 เซนติเมตร ปลายใบมี 2 แฉกไม่เท่ากัน ออกดอกที่ยอด ช่อดอกสั้น ช่อหนึ่งๆ มี 3–5 ดอก กลีบดอกมีสีขาว ปากสีเหลืองส้มโคนปากสอบปลายปากเว้า มีสันนูนสองสันจากโคนออกมาถึงกลางปาก ขนาดดอกโตประมาณ 10 เซนติเมตร มีกลิ่นหอมอ่อน ออกดอกเดือนตุลาคมถึงธันวาคม พบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันตก และภาคใต้


เอื้องเงินแดง

(http://uppic.net/full/c3fa1908bef40373f97b1ea61d0d6195)
เอื้องเงินแดง(Den. cariniferum) ลักษณะลำต้นเจริญทางด้านข้าง ลำลูกกล้วยทรงกระบอก ผิงมักเป็นร่อง ใบรูปขอบขนาน ปลายเบี้ยว ออกดอกเป็นช่อ 2-5 ดอก ดอกกว้าง 3-4 ซม. กลีบดอกสีขาวครีม ปลายสีเหลือง โคนของกลีบปากสีส้มเข้มถึงส้มแดง กระดกห่อขึ้น ปลายแผ่เป็นแผ่นค่อนข้างยาว ขอบหยักเป็นคลื่น สีเหลืองอมส้มถึงขาว กลางกลีบเป็นสันนูน มีเส้นสีส้มเป็นริ้วตามความยาวกลีบเป็นระยะ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม พบมากทางภาคเหนือ

เอื้องมะลิ หรือ เอื้องแส้พระอินทร์

(http://uppic.net/full/3baf4135aef0976f0ecd9fc83102ff93)
เอื้องมะลิ หรือ เอื้องแส้พระอินทร์(Den. crumenatum) ออกดอกเป็นช่อ 1-2 ดอก ตามข้อต้นในส่วนที่ไม่มีใบของปลายลูกกล้วย กลีบดอกสีขาว กางผายออก โคนกลีบปากเชื่อมติดกัน หูกลีบปากกระดกขึ้นทั้งสองข้าง ปลายผายออก มีสีเหลืองที่กลางกลีบปาก ดอกขนาด 2-3 เซนติเมตร ดอกบานเพียงวันเดียว มีกลิ่นหอมฉุน ช่วงออกดอกไม่แน่นอน ส่วนใหญ่จะออกดอกช่วงที่มีอากาศร้อนแล้วมีฝนตก หรือในช่วงฤดูฝน พบตามป่าดิบทางภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันตก

เอื้องสายประสาท หรือ เอื้องสายน้ำผึ้ง

(http://uppic.net/full/c69c4cdb522d37dc6b67119f6e919faa)
เอื้องสายประสาท หรือ เอื้องสายน้ำผึ้ง(Den. primulinum) เป็นกล้วยไม้ที่ลำลูกกล้วยกลมเกือบเท่ากันทั้งลำ รูปทรงตรงหรือโค้งเล็กน้อย ยาวประมาณ 30–45 เซนติเมตร ใบเล็กลงไปทางยอด ใบตัดเฉียงๆ ตามยาวประมาณ 10 เซนติเมตร เมื่อใบแก่จะทิ้งใบ ออกดอกตามข้อที่ทิ้งใบแล้ว ออกดอกในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ดอกเป็นช่อๆ ละ 1–2 ดอก ตามข้อของลำลูกกล้วย ลักษณะกลีบดอกนอกและในยาวรีเท่ากัน สีม่วงอ่อน ปากรูปกรวยเป็นวงกลมสีเหลืองมะนาว ขนาดดอกโตประมาณ 5–7 เซนติเมตร พบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันตก และภาคใต้

เอื้องเก๊ากิ่วแม่สะเรียง หรือ เอื้องไม้ตึง

(http://uppic.net/full/2db458e82a9568e3d83fee443a43496d)
เอื้องเก๊ากิ่วแม่สะเรียง หรือ เอื้องไม้ตึง(Den. tortile) ลำต้นเจริญทางด้านข้าง โคนลำลูกกล้วยคอด ใบรูปขอบขนาน ออกดอกเป็นช่อตามข้อ 3-6 ดอกต่อข้อ ดอกกว้าง 5-7 เซนติเมตร กลีบดอกสีม่วง มักบิดเป็นคลื่น มีเส้นสีม่วงตามความยาวกลีบ โคนกลีบปากม้วนขึ้นเป็นกลีบยาว โคนสีม่วง ปลายผายออก สีเหลืองอ่อน ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน พบทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้

เอื้องแปรงสีฟัน

(http://uppic.net/full/7267c5ba26573f7a08a90ad125c8b5c5)
เอื้องแปรงสีฟัน(Den. secundum) ใบรูปขอบขนานแกมรูปแถบ ออกดอกที่ปลายกิ่งเป็นช่อยาว ดอกจำนวนมาก กลีบงุ้มเข้าหากัน สีม่วงอมชมพู กลีบปากเป็นทรงกระบอก ปลายกลีบปากสีเหลือง ดอกกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ช่วงออกดอกมักผลัดใบ พบมากทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

เอื้องสายหลวง

(http://uppic.net/full/84968a8ba06366bab43b482a863a027a)
เอื้องสายหลวง (Den. anosmum)ลำลูกกล้วยห้อยลงเป็นสายยาว ใบรูปรีขอบขนาน ปลายใบแหลม ดอกเดี่ยวออกตามข้อ ดอกกว้าง 4-5 เซนติเมตร สีม่วงอ่อน กลีบปากรูปทรงกลมปลายแหลม โคนกลีบปากม้วนเข้าหากันและมีแต้มสีม่วงเข้มทั้งสองด้าน ผิวกลีบด้านในมีขนปกคลุม ผิวด้านนอกมีขนเฉพาะขอบกลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ช่วงออกดอกมักผลัดใบ พบทางภาคใต้

เอื้องครั่ง

(http://uppic.net/full/a2e7dbe1c7633041823d5ac92a93e51b)
เอื้องครั่ง(Den. parishii) ลำลูกกล้วยรูปรี ค่อนข้างอวบ ใบรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ออกดอกที่ข้อ 1-3 ดอก ดอกกว้าง 3-5 เซนติเมตร กลีบดอกสีม่วง โคนกลีบดอกกระดกห่อขึ้น ปลายกลีบแหลมมีขนสั้นๆ ปกคลุม กลางกลีบสีม่วง ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม พบทางภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันตก

เอื้องคำ

(http://uppic.net/full/ee0dc619981c438f9a199360f819ce2d)
เอื้องคำ(Den. chrysotoxum) เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยรูปทรงหลายเหลี่ยมโดยจะมีตอนกลางลำโป่ง แล้วเรียวลงมาโคนและยอด ความยาวประมาณ 20–50 เซนติเมตร เมื่อลำแก่จะมีสีค่อนข้างเหลืองตอนบนของลำจะมีใบอยู่ 4–5 ใบ ยาวประมาณ 20–30 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อ 12-25 ดอก แต่ละช่อดอกจะห่างไม่อัดแน่น ดอกมีสีส้มสด กลีบปากสีส้มมีขนาดใหญ่ โคนกระดกห่อขึ้น ปลายบานเป็นทรงกลม มีขนนุ่มปกคลุม ขอบกลีบหยักเป็นคลื่น ขนาดดอกประมาณ 3-5 เซนติเมตร มีกลิ่นหอม ออกดอกช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม พบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันตก

แววมยุรา

(http://uppic.net/full/2058978fc05b10f1f89ed5aa356a16b0)
แววมยุรา(Den. fimbriatum) เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยยาวกว่า 60 เซนติเมตร มีผิวเป็นร่องตื้นๆ ใบรูปหอกยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ช่อดอกห้อยยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ช่อหนึ่งมี 7–15 ดอก กลีบนอกยาวรี กลีบในเป็นรูปไข่สีเหลือง กลีบปากเกือบกลมมีสีเข้มกว่ากลีบดอก ผิวมีขนนุ่มละเอียดปกคลุม ขอบกลีบหยัก กลางกลีบมีแต้มสีม่วงเข้มเกือบดำ ดอกกว้าง 3-4 เซนติเมตร ออกดอกเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม พบทางภาคเหนือ


เอื้องดอกมะเขือ
ข้อมูลอ้างอิงจาก : http://pohmie.exteen.com/20070528/entry

(http://uppic.net/full/e162950b8f8cfaeeb9ed4284f388f7c4)
Dendrobium hercoglossum(Dendrobium hercoglossum) เป็นหวายใน section brevifores ซึ่งในเมืองไทยมีอยู่ 3 ชนิด เอื้องดอกมะเขือ พบทางภาคตะวันออก ลำต้นเรียวโคนผอม ดูเผินๆ คล้ายพวกเอื้องเงิน ฤดูดอกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เมษายน ออกดอกเป็นช่อสั้น 4-6 ดอก แต่ออกหลายช่อทำให้ดูมีจำนวนมาก สีม่วงอ่อน คุ้นตาคนส่วนใหญ่ แล้วยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย ลักษณะเด่นของ section นี้ก็อยู่ที่ปลายกลีบปากเรียวเป็นจงอยแหลม แล้วก็มีฝาครอบเกสรมีสีม่วงเข้ม ดูเด่นขึ้นมาเป็นพิเศษ


เอื้องแซะ
ข้อมูลอ้างอิงจาก : หนังสือกล้วยไม้ไทยเล่ม 2(วชิรพงศ์ หวลบุตตา)

(http://uppic.net/full/516a5ba375c82e9838488f870dcdb966)
เอื้องแซะ (Dendrobium scabrilingue Lind) เป็นกล้วยไม้ที่ขึ้นอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ทั่วไปบนภู มีสีขาวดอกเล็ก ๆ กลิ่นหอมชื่นใจมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า" เอื้องแซะหอม" หรือ "เอื้องแซะหลวง" พบในพื้นที่ป่าดิบแล้ง และป่าสนที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,000 ม.ขึ้นไป ออกดอกระหว่างเดือนพฤศจิกายน - เดือน มีนาคม ที่บริเวณยอด และตามข้อลำ เป็นช่อขนาดสั้น 1-2 ดอก แต่ละดอกมีขนาดประมาณ 2 ซม.  เมื่อช่วงแรกแย้มกลีบมีสีขาวอมเขียวเป็นมัน บริเวณกลีบปากมีสีเขียวอมเหลือง จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และเหลืองอมส้มตามลำดับ

เอื้องดอกมะขาม
ข้อมูลจาก : OrchidNeverDie งาม…บ่มิคลาย bloggang

(http://uppic.net/full/049bc84a5467a7f4ea273d65e1ec5f58)
เอื้องดอกมะขาม หรือ เอื้องข้ามเหนียวลิง เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยอยู่ในสกุล Dendrobium มี 2 ชนิด คือ Dendrobium venustum (ลำยาว) และ Dendrobium delacourii (ลำสั้น) เป็นสกุลที่มีมากที่สุด ในประเทศไทยมีมากกว่า 150 ชนิด และทุกชนิดเป็นไม้อิงอาศัย เอื้องดอกมะขามมีลักษณะลำรูปไข่ จะมีดอกในช่อประมาณ 8-10 ดอกหรือมีมากกว่านี้
แล้วแต่การดูแล-บำรุงใส่ปุ๋ย ดอกจะมีขนาดเล็กประมาณ 1.5-2 ซม.
ฤดูกาลออกดอก
-Dendrobium delacourii (ลำสั้น) : เมษายน-มิถุนายน
-Dendrobium venustum (ลำยาว) : กรกฎาคม-สิงหาคม
การบานของดอก : บานทนนานหลายสัปดาห์

เอื้องสายล่องแล่ง
ข้อมูลอ้างอิงจาก : หนังสือกล้วยไม้ไทย(วชิรพงศ์ หวลบุตตา)

(http://uppic.net/full/b5ed315bddf5bdcab292f1e5b9453b6c)
เอื้องสายล่องแล่ง หรือ เอื้องสายไหม(Dendrobium aphyllum (Roxb.) Fischer) เป็นกล้วยไม้สกุลหวายที่พบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ลำต้นมีขนาดค่อนข้างเล็กแต่สมารถทอดลำยาวมากกว่าเอื้องสายชนิดอื่น(ยาวประมาณ 2 เมตร) ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ออกดอกตามบริเวณข้อลำ ช่อสั้น แต่ละช่อมีจำนวน 1-4 ดอก กลีบสีม่วงอ่อน กลีบปากมีขนาดใหญ่ ขอบจักเป็นริ้วสีเหลืองอ่อน  ออกดอกระหว่างเดือนมีนาคม ถึง เมษายน ดอกมีขนาด 4-5 ซ.ม.

ขอบคุณเจ้าของภาพต้นฉบับในอินเตอร์เนตทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ

ชอบบบบบบบบบบบบบบบ มากค่ะ

ชอบมากค๊......แต่ไม่กล้าปลูก ;D

รูปหายหมดเลยอ่ะ
ช่วงนี้กำลังสร้างเวบใหม่อยู่ ยังไงขอยกยอดเรื่องภาพประกอบ+ข้อมูลความรู้ไปไว้ที่โน่นก็แล้วกันนะครับ
ไว้เวบเสร็จสมบูรณ์แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง  ;D